ปลัดขิกยอดยันต์เสน่หา

ประวัติ  ความเชื่อ  ความเป็นมา  ปลัดขิกหรือศิวลึงค์เป็นวัตถุโบราณที่ถูกสร้างสรรค์ให้เป็นรูปอวัยวะเพศชายนั้น  เป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระศิวะ  ที่ผู้คนนิยมสักการบูชากันตั้งแต่อดีตโบราณตราบจนปัจจุบันนี้  ด้วยความเคารพศรัทธากันอย่างกว้างขวาง  ศิวลึงค์เป็นเสมือนรูปเคารพแทนพระองค์  ที่มีปรากฏอยู่ในเทวสถานทุกแห่ง  และก็มีธรรมเนียมประเพณีที่จะจัดพิธีกรรม  เพื่อบูชาศิวลึงค์นี้โดยเฉพาะอีกด้วย

ในตำนาน  พระศิวะทรงได้ประกาศว่าอวัยวะเพศของพระองค์  จะเป็นเสมือนสัญลักษณ์และตัวแทนของพระองค์  ที่บรรดามนุษย์และเทพเทวะทั้งปวงจะต้องกราบไหว้บูชา  ถ้าต้องการความสุขและความสำเร็จอันงดงามในชีวิต  โดยดวงพระทัยและดวงพระวิญญาณขององค์พระศิวะจะสถิตอยู่ด้วย  เพื่อคุ้มครองและอำนวยพรให้กับผู้ที่สักการะบูชาศิวลึงค์นั้น  จักได้บัง เกิดสัมฤทธิ์ผลเป็นจริง  นับจากนั้นไม่ว่าจะเป็นบรรดามนุษย์  ดาบส  ฤาษี  หรือแม้แต่ทวยเทพเทวาบนสรวงสวรรค์ชั้นต่างๆ  เองก็ยังนิยมสักการะบูชาศิวลึงค์  หรือรูปเคารพที่เป็นอวัยวะเพศชาย  อันเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของพระศิวะส่วนหนุมานนั้น  เป็นลิงที่มีฤทธิ์มาก  สามารถสำแดงเดชต่างๆ  ได้หลายประการ  เช่น  การขยายร่างกายให้ใหญ่โต การยืดหางให้ยาว  เป็นต้น  นอกจากนี้  หนุมานยังได้ชื่อว่าเป็นอมตะ  คือ  ไม่มีวันตาย  เนื่องจากเป็นบุตรของพระพาย  (ลม)  กับนางสวาหะ  ซึ่งเป็นภาคอวตารของพระอิศวร  ด้วยเหตุนี้เมื่อหนุมานมีอันตรายถึงตายแล้ว  เพียงแค่มีลมพัดมาหนุมานก็จะฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่  ด้วยอำนาจของพระพายผู้เป็นบิดา  หนุมานเป็นตัวแทนของชายหนุ่มทั่วไป  คือ  รูปงาม  มีนิสัยเจ้าชู้  และมีภรรยามาก  เช่น  ๑. นางบุษมาลี  ๒. นางเบญกาย  ๓. นางสุพรรณมัจฉา  ๔. นางวารินทร์  ๕. นางมณโฑ  ๖. นางสุวรรณกันยุ  ๗. นางสนมอื่นๆ  อีกถึง  ๕,๐๐๐  นาง  รวมมีภรรยาทั้งหมดมากถึง  ๕,๐๐๖  นาง  ปลัดขิกนั้นเด่นทั้งเรื่อง  แคล้วคลาดปลอดภัย  คงกระพัน  กันเขี้ยวงา  ป้องกันคุณไสย์  เสนียดจัญไร  ภูตผีปีศาจต่างๆ  ส่วนในด้านเมตตามหาเสน่ห์นั้นก็มีอยู่ครบ  แต่ที่จะโดดเด่นมากที่สุดเห็นจะเป็นด้านเมตตามหาเสน่ห์  โชคลาภค้าขาย  บางคนมีร้านค้าก็บูชาแล้วอธิษฐาน  ปรากฏว่าวันนั้นมีลูกค้าเข้ามากมาย  จากที่ไม่ค่อยมีลูกค้าเข้าร้าน  ขายแทบไม่ทัน  เรียกได้ว่ามีปลัดขิกค้าขายดีแล้วก็ไม่จน  มีกินมีใช้  พกพาไว้จะมีเสน่ห์  มหานิยม  ทำมาค้าขายดี  มีเท่าไหร่ก็ขายหมด  ไปที่ใดไม่มีคนรังเกียจ  เจ้านายรัก  ผู้ใหญ่เอ็นดู  เพื่อนฝูงให้ความให้ความช่วยเหลือดี  พกพาไว้เป็นมหาละลวย  มหาเสน่ห์  มีโชคลาภ  เงินทองไหลมาเทมา  คุ้มครองป้องกันอาถรรพ์

การสร้าง  วัตถุอาถรรพ์  มวลสารศักดิ์สิทธิ์  ปลัดขิกหล่อด้วยโลหะทองเหลืองผสมวัตถุอาถรรพ์ต่างๆ  ครูบาเดชจะเน้นวิธีการสร้างแบบโบราณตามสูตรตามตำรา  โดยได้นำวัตถุอาถรรพ์  มวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ  นำมาเป็นมวลสารอุดไว้ใต้ฐานมีดังนี้  ดินอาถรรพ์  ๗  ป่าช้า  ดิน  ๗  ป่า  ดิน  ๗  โป่ง  ดิน  ๗  ท่า  ดิน  ๗  วัด  ดิน  ๗  นา  ดิน  ๗  ทุ่ง  ชานหมากปู่ฤาษีตาไฟ  แร่เหล็กไหลจากถ้ำต่างๆ  แร่เหล็กไหลแกะล้าน  แร่ธาตุอาถรรพ์จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ  กาฝากจากไม้มงคลต่างๆ  ประคำโบราณนำเอามาบดเป็นผง  ไม้พญางิ้วดำ ไม้แก่นมะขาม  พระธาตุวรรณะสัณฐานต่างๆ  พระธาตุถ้ำแต้มที่อธิษฐานแล้วบังเกิดฝนตกฟ้าร้องลูกเห็บตก  ผงเถาวัลย์หลงตัวผู้ตัวเมีย  ผงว่านมหาเสน่ห์  ผงว่านมหาเศรษฐีผงว่านมงคล  ๑๐๘  ชนิด  พระเครื่องใหม่และเก่าพิมพ์ต่างๆ  ที่ชำรุดแตกหัก  เส้นเกศาครูบาหลายท่าน  รวมถึงเส้นเกศาครูบาเดช  และมวลสารอื่นๆ  อีกมากมายนับไม่ถ้วน  นำมาบดผสมผสานรวมเข้าด้วยกัน  เป็นมวลสารหลักในการจัดสร้าง

ข้อแนะนำ  ข้อควรระวัง  ในการใช้  เอาไปใช้แล้วจักบังเกิดผล  เพราะครูบาเดชท่านสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง  มามากมายหลายแบบหลายอย่างหลายรุ่นแล้ว  ลูกศิษย์ลูกหานำไปใช้แล้วมีประสบการณ์แตกต่างกันไป  ตามความหมั่นเพียร  ตามแรงบุญกุศลกรรมที่แต่ละคนสร้างมา  โดยเน้นให้ผู้นำไปใช้จะต้องปฏิบัติให้ถูกวิธีตามขั้นตอน  หมั่นนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์  ต้องสวดคาถาให้ขึ้นใจ  ที่สำคัญห้ามใช้ในทางที่ผิดศิลธรรม  อยากเห็นผลไวควรปฏิบัติตนให้อยู่ในศิล  เป็นคนดีต่อตนเอง  ต่อคนในครอบครัว  และสังคม  

ไม่เบียดเบียนใคร  ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต  ให้ทำบุญใส่บาตรถวายสังฆทาน  ปล่อยนกปล่อยปลา  บริจาคให้ทานแก่คนตกทุกข์ได้ยาก  บริจาคโลงศพผ้าคลุมศพไร้ญาติ  กรวดน้ำอุทิศส่วนบุญกุศลที่ทำมาให้แก่ตนเอง  คนในครอบครัว  ทุกดวงจิต  ทุกดวงวิญญาณ  เทพเทวาอารักษ์  สิ่งศักดิ์สิทธิ์  ครูบาอาจารย์  ท่านทั้งหลายที่ประสิทธิ์ประสาทวิทยาคม  และสถิตปกปักษ์รักษาอยู่ภายในวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง  อยู่เป็นประจำ  ชีวิตจะประสบความสำเร็จรุ่งเรือง  ไม่เป็นที่ทุกข์ร้อน