เหรียญหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด วัดอัมพวัน เหรียญหลวงพ่อหรุ่น คงกระพัน แคล้วคลาด บูชาเหรียญหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด วัดอัมพวัน

เหรียญหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด วัดอัมพวัน เหรียญหลวงพ่อหรุ่น คงกระพัน แคล้วคลาด บูชาเหรียญหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด วัดอัมพวัน

เหรียญหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด วัดอัมพวัน นับเป็นเหรียญคณาจารย์เหรียญหนึ่งที่ได้รับความนิยมในวงการนักนิยมสะสม เหรียญคณาจารย์อย่างกว้างขวาง เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อหรุ่น เรียกได้ว่าเป็น เหรียญที่มีราคาเล่นหากันสูงพอควรทีเดียวในบรรดาเหรียญเกจิจารย์ด้วยกัน เนื่องด้วยพุทธาคมของหลวงพ่อหรุ่นผู้สร้างเป็นที่เลื่องลือขจรไกลโดยเฉพาะด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี

เหรียญหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด วัดอัมพวันเหรียญหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด วัดอัมพวัน

เหรียญพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางมานานปี แม้ว่าบนหน้าเหรียญจะไม่ได้ลงชื่อหลวงพ่อ/วัด/พ.ศ.ที่สร้าง แต่ก็เป็นที่รู้จักกันในหมู่นักสะสมเหรียญเป็นอย่างดีว่า นี่คือ เหรียญหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด วัดอัมพวันกทม. สร้างประมาณปี 2465-2469 เป็นเหรียญที่หลวงพ่อสร้างขึ้นเอง จำนวนน้อยมาก มี 2 เนื้อ คือ เนื้อเงิน (สวยๆ เช่าหากันถึง 2 ล้านบาท) และ เนื้อทองแดง (สวยๆ เช่าหากันที่หลักแสนปลาย) มีทั้ง พิมพ์ยันต์เล็ก และ พิมพ์ยันต์ใหญ่ คือเหรียญในภาพนี้ ซึ่งเป็นของชรินทร์ สงขลา นักสะสมเหรียญพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่า เหตุที่มีราคาสูงมากก็เพราะเป็นเหรียญที่มีพุทธาคมในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี เป็นที่เลื่องลืออย่างกว้างขวาง      (บางกระแสกล่าวว่า เหรียญส่วนหนึ่งลูกศิษย์สร้างขึ้นแจกกันเอง แล้วต่างคนต่างนำมาให้หลวงพ่อปลุกเสกอีกทีหนึ่ง ประมาณ4,000 เหรียญ น่าจะเป็นส่วนที่เป็นเนื้อทองแดง)

หลวงพ่อหรุ่น เป็นชาวเชียงราก จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อประมาณ พ.ศ.2390 ท่านศึกษาวิทยาคมและไสยศาสตร์มาตั้งแต่เด็กๆ จนเก่งกล้าสามารถมาก อีกทั้งท่านเป็นคนจริง จึงมักถูกชาวบ้านทั่วๆ ไปเรียกว่า "นักเลง" ต่อมาชื่อเสียงโด่งดังจึงขนานนามเป็น "เสือหรุ่น" หลังจากนั้นท่านได้กลับตัว จนได้เป็นกำนัน และได้รับพระราชทานยศเป็น''ขุนภาวิจล ใจภารา''      เมื่อ พ.ศ.2431 ท่านละทิ้งทางโลกมุ่งศึกษาทางธรรม โดยอุปสมบทที่ วัดลำลูกกา โดยมี พระญาณไตรโลก (สะอาด) อดีตเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งยังเป็นที่ “พระธรรมราชานุวัตร” เป็นพระอุปัชฌาย์      หลังจากนั้นท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิปัสสนากรรมฐาน และได้เดินธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ จนมาถึงละแวก วัดอัมพวัน ถนนนครไชยศรี อ.ดุสิต จ.พระนคร (กรุงเทพฯ) ชาวบ้านได้นิมนต์ท่านเข้ามาพำนักที่วัดอัมพวัน      พระเครื่องรางของขลังของท่านที่มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ด้านคงกระพันชาตรีและมหาอุดเป็นเลิศ มี 4 ชนิด คือเหรียญรูปเหมือนครึ่งองค์, ตะกรุดโทน, กระดูกห่านลงจาร และ แหวนขาวเก้ายอด...นอกจากนี้ท่านยังมีวิชา "สักยันต์เก้ายอด" เป็นที่เลื่องลืออีกด้วย จนได้รับฉายาว่า "หลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด" ท่านได้มรณภาพในปี 2471 สิริรวมอายุ 81 พรรษา 40   กล่าวถึง ตำนาน เสือหรุ่น/ กำนันหรุ่น / หลวงพ่อหรุ่น / นายหรุ่น ใจภารา ตอนหนึ่งว่า   เมื่อ พ.ศ.2425 ชื่อของ เสือหรุ่น ปรากฏขึ้นโดยปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์นับร้อยราย ในท้องที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดใกล้เคียง เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่สามารถปราบได้ เพราะ เสือหรุ่น ผู้นี้แก่กล้าวิชาอาคม สามารถผูกหุ่นลวงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงและจับมานับครั้งไม่ถ้วน จนทางราชการปิดประกาศไปทั่วให้ เสือหรุ่น เข้ามอบตัวจะไม่เอาผิด แต่เมื่อ เสือหรุ่น เข้ามอบตัวจริง ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนับร้อยได้รายล้อมจะจับตัวเขา เสือหรุ่น เมื่อรู้ตัวว่าถูกลวง ก็มิได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด รวบรวมใจเป็นสมาธิแล้วภาวนาคาถาที่ร่ำเรียนมา ผูกเป็นหุ่นลวงตา หนีฝ่าวงล้อมไปได้      ต่อมา เจ้าเมืองอยุธยา ได้เขียนประกาศด้วยตัวเอง ให้ เสือหรุ่น เข้าพบเพื่อเจรจากลับตัวกลับใจเสือหรุ่น ได้ทราบข่าว แต่ไม่ไว้ใจ เพราะเคยถูกหักหลังมาแล้ว จึงมีหนังสือถึงท่านเจ้าเมือง ให้ออกมาพบเพียงคนเดียว เมื่อถึงเวลานัด ท่านเจ้าเมืองมายืนรอก่อน เสือหรุ่น จึงออกมาจากพุ่มไม้เข้าพบ      หลังจากเจรจากันแล้ว ท่านเจ้าเมือง ได้แต่งตั้งให้ เสือหรุ่นเข้ารับราชการเป็น กำนัน ปกครองคนในตำบลบ้านเดิมต่อไป เสือหรุ่น ได้ทำความดีความชอบตลอด 3 ปี จนได้รับพระราชทานยศเป็น''ขุนภาวิจล ใจภารา''    ต่อมาท่านได้ไปบวชที่ วัดลำลูกกา แล้วเดินธุดงค์จนมาถึงวัดอัมพวัน เขตดุสิต จ.พระนคร (กรุงเทพมหานคร)      ท่านเป็นพระอาจารย์ชื่อดังเรื่อง การสักยันต์เก้ายอด ให้ลูกศิษย์ ใครที่มี ยันต์เก้ายอด ติดกายเข้ารณรงค์สงครามลูกปืนมาเป็นห่าฝน มีดดาบคมกริบไม่เคยระคายผิว      คำว่า เก้ายอด คือ ยอดของยันต์ ที่มีความเป็นเลิศในด้านต่างๆ 9 ทาง ดังจะผูกเป็นวลี 9 ทางดังนี้  ชาตรี - แคล้วคลาด - กันภัย - มหาระงับ - ดับทุกข์ - สุขล้น - พ้นสงสาร - การงานรุ่ง -พยุงดวง 

ยอดที่ 1 ชาตรี : โดนของหนัก ของเบา ของแหลม ของคม ไม่ระคายผิว 

ยอดที่ 2 แคล้วคลาด : ศัตรูหมู่มารเหตุเพศภัยอันใดแคล้วคลาดผ่านพ้นจากเราไปหมด 

ยอดที่ 3 กันภัย : ภัยจากทิศทั้ง 4 บนบก บนน้ำ บนอากาศ ทำอันตรายเรามิได้ 

ยอดที่ 4 มหาระงับ : ดับเรื่องร้อนเลวร้ายขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นความเป็นคดี ระงับดับหมดทุกเรื่อง 

ยอดที่ 5 ดับทุกข์ : ทุกข์ภัยที่เกิดกับตัวลำบากยากจนหน้าดำคล้ำหมอง หายจืดจางไป 

ยอดที่ 6 สุขล้น : ทวีความผาสุก เกษมสำราญ ทั้งสุขภาพจิต สุขภาพใจ 

ยอดที่ 7 พ้นสงสาร : จิตเกาะเกี่ยวกับธรรมคุณความดีงาม ละชั่วประพฤติเลว ทำดีตลอดไป

ยอดที่ 8 การงานรุ่ง : หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า เจ้านายรัก ลูกน้องหนุน เพื่อนร่วมงานดี

รูปถ่ายหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด วัดอัมพวัน

ประวัติหลวงพ่อหรุ่น ใจภารา วัดอัมพวัน กรุงเทพ

หลวงพ่อหรุ่น เดิมทีท่านเองเป็นชาวตำบลเชียงราก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อราวปี พ.ศ.2390 ท่านมีความสนใจศึกษาทางด้านวิทยาคมและไสยศาสตร์มาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อทราบว่าเกจิอาจารย์รูปใดเก่งกล้าสามารถทางด้านอาคมและไสยศาสตร์ ท่านก็จะดั้นด้นเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาหาความรู้จนเชี่ยวชาญแตกฉาน มีวิทยาอาคมเข้มขลังเป็นที่ยำเกรง

อีกทั้งท่านเป็นคนจริง จึงมักถูกชาวบ้านทั่วๆ ไปเรียกว่า "นักเลง" ต่อมาชื่อเสียงโด่งดังจึงขนานนามเป็น "เสือหรุ่น" หลังเข้าเป็นผู้ใหญ่บ้านและกำนัน โดยลำดับ ด้วยความดีความชอบจึงได้รับพระราชทานยศเป็นขุนกาวิจล

ต่อมาท่านละทิ้งทางโลกมุ่งศึกษาทางธรรม โดยอุปสมบทที่วัดลำลูกกา ในปีพ.ศ. 2431 โดย พระญาณไตรโลก(สะอาด) อดีตเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งยังเป็นที่พระธรรมราชานุวัตร เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังอุปสมบทได้ หลายพรรษา ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิปัสสนากรรมฐานแล้ว ท่านจึงเริ่มเดินธุดงค์ คราหนึ่งท่านธุดงค์มาปักกลดในบริเวณข้างวัดอัมพวัน ถนนนคร ไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ชาวบ้านเห็นถึงวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัดและมีคาถาอาคมแก่กล้า จึงได้นิมนต์ท่านมาพำนักที่วัดอัมพวัน

เมื่อลูกหลานและผู้เลื่อมใสศรัทธาทราบข่าว ก็พากันไปเยี่ยมนมัสการพร้อมขอวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังจากท่านอย่าง ล้นหลาม เนื่องจากท่านมีวิชาอาคมด้านคงกระพันชาตรีและมหาอุดเป็นเลิศ โดยเฉพาะในด้านการ "สักยันต์" จนได้รับฉายาว่า "หลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด" ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดอัมพวันมาโดยตลอดจนมรณภาพในปีพ.ศ.2471 สิริอายุ 81 พรรษา 35

วัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังที่ท่าน สร้างไว้แจกจ่ายลูกศิษย์ลูกหามีทั้งสิ้น 4 ชนิด คือ เหรียญปั๊มรูปเหมือนครึ่งองค์ตะกรุดโทน กระดูกห่านลงจารขอม และแหวนขาวเก้ายอด ซึ่งทุกชิ้นที่กล่าวมานี้หาดูหาเช่าได้ยากมากๆ เพราะท่านสร้างไว้จำนวนน้อยมาก แต่ทุกชิ้นล้วนปรากฏอภินิหารศักดิ์สิทธิ์มากมายแก่ผู้บูชาครอบครอง ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและนิยมสะสมพระเครื่องกันในวงการนักนิยมสะสม เห็นจะเป็น "เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อหรุ่น"

เหรียญหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด วัดอัมพวัน จัดสร้างประมาณปี พ.ศ.2460 ที่ท่านสร้างเองจะมีจำนวนน้อยมาก แต่จะมีอีกส่วนหนึ่งซึ่งลูกศิษย์สร้างขึ้นแจกจ่ายกันเองแล้วต่างคนต่างก็นำมา ให้หลวงพ่อหรุ่นปลุกเสกอีกทีหนึ่ง ประมาณ 4,000 เหรียญ ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ หูเชื่อม ยกขอบโดยรอบเป็นเส้นแบน พิมพ์ด้านหน้า ตรงกลางเป็นรูปเหมือนครึ่งองค์หลวงพ่อหรุ่น ที่คอปรากฏเม็ดประคำ 5 เม็ด ด้านบนสุดจารึก "ตัวอุ" ลากหางยาวไปจนจดขอบหูเชื่อม

ต่อลงมาเป็น อักษรขอมว่า "อะ ระ หัง" มี "ตัวอุ" ขนาบทั้ง 2 ข้าง แถวต่อมาเป็นอักษรขอมว่า "มะ อะ" ถัดลงมามี "ตัวอุ" ซ้อน 2 ตัว ขนาบอยู่ทั้ง 2 ข้าง ถัดจากตัวอุ เป็นอักษรขอมทั้ง 2 ข้างว่า "พุท ธะ สัง มิ" ล่างสุด เป็นโบปลายกนกภายในจารึกอักษรขอมว่า "ระ อะ ภะ" และมี "ตัวอุ" ขนาบทั้ง 2 ข้าง

สำหรับพิมพ์ด้านหลัง มีด้วยกัน 2 พิมพ์ เพราะแม่พิมพ์เดิมชำรุดจึงสร้างแม่พิมพ์ด้านหลังขึ้นใหม่ พิมพ์แรก คือ "บล็อกหลังยันต์ใบพัด หรือพิมพ์บล็อกแตก" จะมีรอยบล็อกพิมพ์แตกบริเวณที่พาดลงมาตามขอบเหรียญด้านล่างด้านซ้ายของ เหรียญ โดยรอบด้านของเหรียญจะเป็น "ยันต์รูปใบพัด" ทั้งใหญ่ เล็ก ตรงกลางเป็น "ยันต์นะองค์พระ" ด้านบนเป็นตัว "อุ" และมีอักขระขอมเรียงเป็นแถว ส่วนพิมพ์ที่ 2 คือ "บล็อกหลังยันต์นะองค์พระในวงกลม" พิมพ์นี้ยันต์นะฯจะอยู่ภายในเส้นล้อมวงรูปไข่ โดยรอบจะเป็นอักขระขอม

เหรียญหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด วัดอัมพวัน ตำหนิในพิมพ์ทรงนี้จะเป็นเส้นพิมพ์แตกบริเวณด้านขวาของเหรียญ ตรงมุมล่างที่ยันต์ใบพัด พาดจากขอบเหรียญไปยังยันต์ใบพัดครับผม

อ้างอิงจาก คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง

โดย ราม วัชรประดิษฐ์ ข่าวสด