หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ประวัติ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ”ราชญ์แห่งที่ราบสูง

พระเทพวิทยาคม หรือ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ” อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ที่แม้ท่านจะละสังขารไปตั้งแต่ปี 2558 ยังคงมีพุทธศาสนิกชนและศิษยานุศิษย์นับถือเคารพศรัทธาเป็นจำนวนมาก
หลวงพ่อคูณ นับว่าเป็นที่น่าสนใจมากด้วยเอกลักษณ์ส่วนตัวของ หลวงพ่อคูณ ไม่ว่าจะเป็นท่านั่งยอง พูดภาษามึงกู ปัจจุบันอาจจะคิดว่าไม่สุภาพแต่สมัยก่อน คนไทยเราก็พูดกันแบบนี้มานาน พูดถึง"หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่" หลายคนจะคิดถึงพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วท่านได้พูดให้ข้อคิดต่างๆในการดำเนินชีวิตมากมายถ้าเราทุกคนนำมาใช้จะมีประโยชน์มากมาย
ชีวประวัติหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา แทบไม่มีใครไม่รู้จัก หลวงพ่อคูณ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคอีสาน ประวัติพระเทพวิทยาคม (คูณ ปริสุทโธ) ท่านเกิดในครอบครัวชาวนา ท่านเกิดที่ บ้านไร่ หมู่ที่6 ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งในขณะนั้น พูดได้ว่าห่างไกลความเจริญ บิดาท่านชื่อนายบุญ ฉัตรพลกรัง มารดาชื่อนางทองขาว ฉัตรพลกรังประวัติหลวงพ่อคูณ บิดาท่านชื่อนายบุญ ฉัตรพลกรัง มารดาชื่อนางทองขาว ฉัตรพลกรัง หลวงพ่อคูณ ท่านเกิดเมื่อ 14 ตุลาคม 2466 (แต่บางตำราว่าวันที่ 4 ตุลาคม) ตรงกับวันแรม 10 ค่ำ เดือน 10 ปีกุน หลวงพ่อคูณ ท่านเป็นบุตรชายคนหัวปี ซึ่งมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 3 คน คือ
1.หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่
2.นายคำมั่ง แจ้งแสงใส
3.นางทองหล่อ เพ็ญจันทร์
เมื่อครั้งสมัยที่ หลวงพ่อคูณ อยู่ในวัยเยาว์เมื่อท่านอายุ 6-7 ขวบ ได้เข้าเรียนหนังสือกับ พระอาจารย์เชื่อม วิรโธ พระอาจารย์ฉาย และพระอาจารย์หลี ซึ่งได้เรียนทั้งภาษาไทยและภาษาขอม ที่วัดบ้านไร่ ซึ่งเป็นสถานการศึกษาแห่งเดียวในหมู่บ้านในขณะนั้น มิได้มีโรงเรียนทำการสอนเช่นในสมัยปัจจุบันนี้ซึ่ง หลวงพ่อคูณ นอกจากเรียนภาษาไทยและขอมแล้ว พระอาจารย์ทั้ง 3 ยังมีความเมตตาอบรมสั่งสอน วิชาคาถาอาคม เพื่อป้องกันอันตรายต่างๆ ให้แก่ หลวงพ่อคูณ ด้วยนับว่าหลวงพ่อคูณรู้วิชาไสยศาสตร์มาแต่สมัยตอนเป็นเด็ก เมื่อท่านอายุได้ 21 ปีก็ได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดถนนหักใหญ่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2487 (หนังสือบางแห่งว่าปี 2486) ตรงกับวันศุกร์ เดือน 6 ปีวอก โดยพระครูวิจารย์ดีกิจ อดีตเจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ ส่วนพระกรรมวาจาจารย์ ก็คือพระอาจารย์สุข วัดโคกรักษ์ หลวงพ่อคูณ ได้รับฉายาว่า ปริสุทโธ และหลังจากที่ หลวงพ่อคูณ อุปสมบทเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อคูณ ท่านได้ฝากตัวเป็น ศิษย์หลวงพ่อแดง วัดบ้านหนองโพธิ์ ต.สำนักตะคร้อ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา (บางตำรากล่าวว่าเมื่อบรรพชาแล้วได้เล่าเรียนกับหลวงพ่อคง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดถนนหักใหญ่ก่อนแล้วหลวงพ่อคงจึงนำท่านไปฝากกับหลวงพ่อแดง) หลวงพ่อแดงเป็นพระนักปฏิบัติทางด้านคันถธุระ และวิปัสสนาธุระอย่างเคร่งครัด และทั้งเป็นพระเกจิอาจารย์พระคณาจารย์ที่เรืองวิทยาคมเป็นอย่างยิ่ง จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้คนและลูกศิษย์เป็นอย่างมาก
ประวัติหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา
หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่
หลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา
ประวัติหลวงพ่อคูณ นับว่าเป็นที่น่าสนใจมากด้วยเอกลักษณ์ส่วนตัวของ หลวงพ่อคูณ ไม่ว่าจะเป็นท่านั่งยอง พูดภาษามึงกู ปัจจุบันอาจจะคิดว่าไม่สุภาพแต่สมัยก่อน คนไทยเราก็พูดกันแบบนี้มานาน พูดถึง"หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่" หลายคนจะคิดถึงพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วท่านได้พูดให้ข้อคิดต่างๆในการดำเนินชีวิตมากมายถ้าเราทุกคนนำมาใช้จะมีประโยชน์มากมาย
ชีวประวัติหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา แทบไม่มีใครไม่รู้จัก หลวงพ่อคูณ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคอีสาน ประวัติพระเทพวิทยาคม (คูณ ปริสุทโธ) ท่านเกิดในครอบครัวชาวนา ท่านเกิดที่ บ้านไร่ หมู่ที่6 ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งในขณะนั้น พูดได้ว่าห่างไกลความเจริญ บิดาท่านชื่อนายบุญ ฉัตรพลกรัง มารดาชื่อนางทองขาว ฉัตรพลกรังประวัติหลวงพ่อคูณ บิดาท่านชื่อนายบุญ ฉัตรพลกรัง มารดาชื่อนางทองขาว ฉัตรพลกรัง หลวงพ่อคูณ ท่านเกิดเมื่อ 14 ตุลาคม 2466 (แต่บางตำราว่าวันที่ 4 ตุลาคม) ตรงกับวันแรม 10 ค่ำ เดือน 10 ปีกุน หลวงพ่อคูณ ท่านเป็นบุตรชายคนหัวปี ซึ่งมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 3 คน คือ
1.หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่
2.นายคำมั่ง แจ้งแสงใส
3.นางทองหล่อ เพ็ญจันทร์
เมื่อครั้งสมัยที่ หลวงพ่อคูณ อยู่ในวัยเยาว์เมื่อท่านอายุ 6-7 ขวบ ได้เข้าเรียนหนังสือกับ พระอาจารย์เชื่อม วิรโธ พระอาจารย์ฉาย และพระอาจารย์หลี ซึ่งได้เรียนทั้งภาษาไทยและภาษาขอม ที่วัดบ้านไร่ ซึ่งเป็นสถานการศึกษาแห่งเดียวในหมู่บ้านในขณะนั้น มิได้มีโรงเรียนทำการสอนเช่นในสมัยปัจจุบันนี้ซึ่ง หลวงพ่อคูณ นอกจากเรียนภาษาไทยและขอมแล้ว พระอาจารย์ทั้ง 3 ยังมีความเมตตาอบรมสั่งสอน วิชาคาถาอาคม เพื่อป้องกันอันตรายต่างๆ ให้แก่ หลวงพ่อคูณ ด้วยนับว่าหลวงพ่อคูณรู้วิชาไสยศาสตร์มาแต่สมัยตอนเป็นเด็ก เมื่อท่านอายุได้ 21 ปีก็ได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดถนนหักใหญ่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2487 (หนังสือบางแห่งว่าปี 2486) ตรงกับวันศุกร์ เดือน 6 ปีวอก โดยพระครูวิจารย์ดีกิจ อดีตเจ้าคณะอำเภอด่านขุนทด ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ ส่วนพระกรรมวาจาจารย์ ก็คือพระอาจารย์สุข วัดโคกรักษ์ หลวงพ่อคูณ ได้รับฉายาว่า ปริสุทโธ และหลังจากที่ หลวงพ่อคูณ อุปสมบทเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อคูณ ท่านได้ฝากตัวเป็น ศิษย์หลวงพ่อแดง วัดบ้านหนองโพธิ์ ต.สำนักตะคร้อ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา (บางตำรากล่าวว่าเมื่อบรรพชาแล้วได้เล่าเรียนกับหลวงพ่อคง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดถนนหักใหญ่ก่อนแล้วหลวงพ่อคงจึงนำท่านไปฝากกับหลวงพ่อแดง) หลวงพ่อแดงเป็นพระนักปฏิบัติทางด้านคันถธุระ และวิปัสสนาธุระอย่างเคร่งครัด และทั้งเป็นพระเกจิอาจารย์พระคณาจารย์ที่เรืองวิทยาคมเป็นอย่างยิ่ง จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้คนและลูกศิษย์เป็นอย่างมาก
เหรียญหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่ รุ่นพิเศษปี2517 บล็อคคูณขีด วัดสระแก้ว
เหรียญหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่ รุ่นพิเศษปี2517 บล็อคคูณขีด วัดสระแก้ว
พระหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ เป็นที่นิยมของนักสะสม
ปัจจุบัน พระเครื่องหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นั้นเป็นที่นิยมและต้องการของลูกศิษย์และนักสะสมพระเครื่องอย่างมาก ราคาพระหลวงพ่อคูณ หลายๆรุ่นมีราคาแพงมากโดยเฉพาะราคาพระ เหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นแรก การเช่าหา พระหลวงพ่อคูณ ต้องระมัดระวังและตกลงการซื้อขายกันให้ดีในกรณีที่พระราคาสูง ส่วนเรื่อง"เครื่องรางของขลัง"ของหลวงพ่อคูณคงต้องยกให้ ตะกรุดทองคำหลวงพ่อคูณ ซึ่งจะเป็น ตะกรุดทองคำฝังแขน ซึ่งท่านจะมีข้อห้าม 2ข้อ คือ 1.ห้ามด่าแม่ 2.ห้ามผิดลูกเมียผู้อื่นนับว่าเป็น เครื่องรางของขลังหลวงพ่อคูณ ที่น่าสนใจมาก แต่อย่างไรเสียผู้ที่เคารพและศรัทธาท่านอย่าลืมคำสอนที่ท่านได้ให้เอาไว้
การศึกษาขณะเป็นสมณะ สอบได้นักธรรมชั้นตรี ที่สำนักเรียนนวัตถนนหักใหญ่ เมื่อได้ศึกษาพระธรรมวินัยด้านปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวทเป็นอย่างดีแล้ว ได้ออกเดินธุดงค์ด้วยเท้าเปล่าจากวัดบ้านไร่สู่พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม และเข้าสู่ประเทศลาว (สปป.ลาว) ในประเทศลาวได้ธุดงค์ไปหลายที่ เช่น ภูเขาควาย หลวงพระบาง ทุ่งไหหิน แก่งหลี่ผี มหานทีสี่พันดอน และเข้าสู่ประเทศกัมพูชา ปี พ.ศ. 2500 หลังจากการเดินธุดงค์แล้ว หลวงพ่อกลับมาจำพรรษา ณ วัดบ้านไร่ การจำพรรษาของหลวงพ่อในแต่ละปีนั้น ท่านได้จำพรรษาไปตามวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย

ขณะที่ หลวงพ่อกลับมาจำพรรษา ณ วัดบ้านไร่นั้น ท่านได้นำชาวบ้านก่อสร้างโรงเรียนบ้านไร่ โดยไม่ได้ใช้งบประมาณจากทางราชการแต่อย่างใด และยังบริจาคเงินก่อสร้างวัด หน่วยงานราชการต่าง ๆ มากมาย ทั้งโรงพยาบาล สถานีอนามัย โรงเรียน วิทยาลัย สถานีตำรวจ บ้านพักตำรวจ ที่ว่าการอำเภอ ถนน รวมทั้งบริจาคเงิน เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ช่วยชีวิต รถพยาบาล รถดับเพลิง เครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ต่าง ๆ เป็นต้น จากคุณงามความดีของท่านมากมาย จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานสัญญาบัตรพัตยศ ณ พระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัยในพระบรมมหาราชวัง ดังต่อไปนี้

12 สิงหาคม 2535 พระราชทานสัญญาบัตรพัตยศ ที่พระญาณวิทยาคมเถระ
10 มิถุนายน 2539 พระราชทานสัญญาบัตรพัตยศ เลื่อนสมณศักดิ์ที่พระราชวิทยาคม
12 สิงหาคม 2557 รับพระราชทานสัญญาบัตรพัตยศ เลื่อนสมณศักดิ์ ที่พระเทพวิทยาคม
และได้รับแต่งตั้ง เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2546
หลวงพ่อได้ถวายเงินแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย วันที่ 11 มกราคม 2538 ณ วัดบ้านไร่ จำนวน 72,000,000 บาท (เจ็ดสิบสองล้านบาท) และถวายอีกครั้งในวันที่ 18 เมษายน 2551 ณ พระราชตำหนักจิตรลดารโหฐานพระราชวัง จำนวน 100,000,000 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาท) ประมาณการเงินที่บริจาคเพื่อเป็นปัจจัยสร้างวัด หน่วยงานราชการและเอกชน เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ สาธารณสงเคราะห์ มีมากถึง 4,000,000,000 บาท (สี่พันล้านบาท)

หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ มรณภาพ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2558 สิริอายุ 92 ปี 71 พรรษา
ที่มา : อนุสรณ์ งานพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ เป็นกรณีพิเศษ ประจำปี 2561 มหาวิทยาลัยขอนแก่น