หลวงพ่อห้อย วัดหอมเกร็ด จ.นครปฐม เหรียญหลวงพ่อห้อย วัดหอมเกร็ด จังหวัดนครปฐม เกจิหลวงพ่อห้อย

หลวงพ่อห้อย วัดหอมเกร็ด จังหวัดนครปฐม สุดยอดพระเกจิแห่งจังหวัดนครปฐม ประวัติหลวงพ่อห้อย วัดหอมเกร็ด จ.นครปฐม พระครูไพศาลธรรมวาที หลวงพ่อห้อย วัดหอมเกร็ด อ.สามพราน จ.นครปฐม หลวงพ่อห้อยท่านเกิดเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2415 โยมบิดาชื่อ มั่ง โยมมารดาชื่อ เมือง ท่านอุปสมบทในปีพ.ศ. 2435 โดยมีพระครูปุริมานุรักษ์ วัดสุขประดิษฐาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อรุ่ง วัดหอมเกร็ด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อแจ่ม วัดทรงคนอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ปุญญัสสะ" หลวงพ่อห้อยท่านได้เรียนวิทยาการต่างๆ จากพระอาจารย์ทั้งสามองค์นี้ นอกจากนี้หลวงพ่อห้อยท่านยังได้เรียนกับสมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ ตอนที่สมเด็จพระสังฆราชฯ ยังดำรงสมณศักดิ์ที่พระธรรมโกษาจารย์อีกด้วย หลังจากที่หลวงพ่อห้อยบวชได้ประมาณ 3 พรรษา หลวงพ่อรุ่งเจ้าอาวาสวัดหอมเกร็ดก็มรณภาพลง วัดหอมเกร็ดจึงว่างเจ้าอาวาส คณะศิษย์และมัคนายกวัดได้นิมนต์หลวงพ่อห้อยผู้เป็นศิษย์เป็นเจ้าอาวาส ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดหอมเกร็ด และก็ได้เป็นเจ้าอาวาส วัดหอมเกร็ด วัดหอมเกร็ดนั้นแต่เดิมชื่อว่า "วัดหอมกรุ่น" ต่อมาหลวงพ่อห้อยท่านได้พิจารณาเห็นว่าวัดหอมกรุ่น

อยู่ไกลแหล่งน้ำ การคมนาคมไม่สะดวก และสภาพวัดทรุดโทรมมากจึงปรึกษามัคนายกวัด ในที่สุดได้ย้ายวัดมาตั้งอยู่ในที่ปัจจุบัน ห่างจากที่ตั้งเดิมประมาณ 500 เมตร

หลังจากที่ได้ย้ายมาอยู่ริมแม่น้ำแล้ว หลวงพ่อห้อย ท่านก็ได้เริ่มสร้างพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ท่านได้สร้างพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ ท่านสนใจในเรื่องการศึกษาของเด็กชาวบ้านในแถบนั้นในปีพ.ศ. 2462 จึงได้ให้เปิดศาลาการเปรียญทำการสอนหนังสือให้แก่เด็กๆ โดยมีนายเทพ นาคนาเกร็ด เป็นครูใหญ่คนแรก และต่อมาในปี พ.ศ. 2465 จึงได้สร้างอาคารเรียนขึ้น เป็นโรงเรียนชื่อว่า "ห้อยศึกษาลัย" จากผลงานและความสามารถของหลวงพ่อท่านจึงได้รับสมณศักดิ์ที่พระครูไพศาลธรรมวาที ต่อมาในปีพ.ศ. 2481 หลวงพ่อห้อยท่านก็ได้ขยายโรงเรียนขึ้นโดยการร่วมมือกับชาวบ้านและทางการจนเป็นโรงเรียนมาตรฐานชื่อว่า "โรงเรียนไพศาลประชานุกูล" หลวงพ่อห้อยท่านมรณภาพลงในปีพ.ศ. 2483 สิริอายุได้ 68 ปี พรรษาที่ 48 นับได้ว่าท่านเป็นพระผู้ก่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับประชาชนชาวตำบลหอมเกร็ดเป็นอย่างมาก ประชาชนให้ความเคารพนับถือและมากราบไหว้รูปเหมือนของท่านอยู่ทุกวันนี้ หลวงพ่อห้อยท่านได้สร้างพระเครื่องขึ้นและที่นิยมมากได้แก่พระปิดตามหาอุตม์หลวงพ่อห้อย

กล่าวถึงประวัติหลวงพ่อห้อยหรือพระครูไพศาลธรรมวาที แห่งวัดหอมเกร็ด ตำบลหอมเกร็ด อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐมนั้น ท่านเกิดเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2415 บิดาชื่อมั่ง มารดาชื่อเมือง เมื่ออายุครบบวชท่านจึงเข้าอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2435 โดยมีพระครูปุริมานุรักษ์แห่งวัดสุขประดิษฐาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อรุ่งแห่งวัดหอมเกร็ด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อแจ่มแห่งวัดทรงคนอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยท่านได้รับฉายาว่า ปุญญัสสะ จากนั้นท่านจึงได้เล่าเรียนวิชาการศึกษาทางโลกและวิชาอาคมจากพระอาจารย์ทั้งสามท่าน ยิ่งไปกว่านั้นท่านยังได้มีโอกาสศึกษากับสมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ ในสมัยที่สมเด็จพระสังฆราชท่านยังดำรงสมณศักดิ์ที่พระธรรมโกษาจารย์อีกด้วย ในด้านการปกครองวัดนั้นหลังจากที่หลวงพ่อท่านบวชเรียนได้ประมาณ 3 พรรษา หลวงพ่อรุ่ง เจ้าอาวาสวัดหอมเกร็ดในขณะนั้นได้มรณภาพลง ท่านได้รับมอบหมายให้รักษาการเจ้าอาวาสและในการต่อมาท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดหอมเกร็ด โดยท่านเป็นเจ้าอาวาสที่ดำเนินการย้ายวัดจากที่ตั้งเดิมมายังที่ตั้งใหม่ในปัจจุบัน (ห่างจากเดิมประมาณ 500 เมตร) เนื่องจากที่ตั้งเดิมอยู่ห่างไกลแม่น้ำยากต่อการเดิน
ทางและวัดเดิมก็มีสภาพทรุดโทรมมาก นอกจากนั้นท่านยังได้เปลี่ยนชื่อวัดจากเดิมชื่อวัดหอมกรุ่น มาเป็นวัดหอมเกร็ดอีกด้วย หลังจากที่ท่านได้ย้ายที่ตั้งใหม่มาอยู่ติดแม่น้ำแล้วท่านได้ทำการพัฒนาวัดอย่างต่อเนื่องเช่นการสร้างพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญและกุฏิสงฆ์ จนกระทั่งในปี พ.ศ.2465 ท่านได้สร้างโรงเรียนห้อยศึกษาลัยขึ้น จากความอุตสาหะของหลวงพ่อที่กล่าวมา ท่านจึงได้รับสมณศักดิ์ที่พระครูไพศาลธรรมวาทีในปีดังกล่าว ต่อมาในปี พ.ศ.2481 หลวงพ่อได้ร่วมมือกับทางหน่วยงานราชการและประชาชนขยับฐานะของโรงเรียนห้อยศึกษาลัยขึ้นเป็นโรงเรียนระดับมาตรฐาน โดยให้ชื่อว่าโรงเรียนไพศาลประชานุกูล ท่านได้ตรากตรำงานหนักทั้งงานการพัฒนาและงานในสมณเพศจนกระทั่งวาระสุดท้ายของหลวงพ่อท่านมาเยือนโดยท่านมรณภาพในปี พ.ศ.2483 สิริอายุ 65 ปี พรรษาที่ 48
