เหรียญพระยาพิชัย รุ่น “100 ปี เมืองอุตรดิตถ์” “เหรียญหลวงพ่อเพชร-สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ-เหรียญพระยาพิชัยดาบหัก”
เหรียญพระยาพิชัย รุ่น รฤก234 พุทธาภิเษก 16 มกราคม 2559
เหรียญพระยาพิชัยดาบหัก ทำพิธีพุทธาภิเษก นิมนต์พระเกจิอาจารย์ดังทั่วประเทศ 80 รูป ร่วมเจริญจิตภาวนาและอธิษฐานจิตนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลพระยาพิชัยดาบหัก “เหรียญหลวงพ่อเพชร-สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ-เหรียญพระยาพิชัยดาบหัก”
พระยาพิชัยดาบหัก เดิมชื่อ จ้อย เกิดที่บ้านห้วยคา อ.พิชัย เมื่อปลายกรุงศรีอยุธยา ได้ศึกษาวิชาความรู้อยู่กับท่านพระครูวัดมหาธาตุ หรือวัดใหญ่ เมืองพิชัย ภายหลัง จ้อยได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น นายทองดี มีความสามารถอย่างยิ่งทั้งด้านการชกมวยและฟันดาบ จนเข้ามารับราชการกับสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ต่อมานายทองดีได้รับแต่งตั้งเป็นองครักษ์ มีบรรดาศักดิ์เป็น "หลวงพิชัยอาสา" เมื่อรับราชการมีความดีความชอบจึงได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าหมื่นไวยวรนาถ พระยาสีหราชเดโชและพระยาพิชัย ผู้สำเร็จราชการครองเมืองพิชัย ข้าศึกได้ยกทัพมาตีเมืองพิชัยถึง 2 ครั้งด้วยกัน ในการรบครั้งที่ 2 พระยาพิชัยถือดาบสองมือ ออกต่อสู้จนดาบหักไปข้างหนึ่ง และรักษาเมืองไว้ได้ ดังนั้นจึงได้รับสมญานามว่า "พระยาพิชัยดาบหัก" จากหลักฐานของคนในตระกูลของพระยาพิชัยที่ได้สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ วิชัยขัทะ เชาวปรีชา พบว่าเถ้าอัฐิของพระยาพิชัยบรรจุอยู่ที่วัดราชคฤห์วรวิหาร แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ซึ่งได้มีการประสานงานเพื่อขอนำเถ้าอัฐิของพระยาพิชัยนำกลับมาไว้ยังบ้านเกิดที่บ้านห้วยคา อ.พิชัย จากพระเทพวิสุทธิโสภณ(เฉลา)เตชวนฺโต ป.ธ.9 เจ้าอาวาสวัด หลังจากอัฐิพระยาพิชัยดาบหักถูกบรรจุไว้ที่สถูปของวัดราชคฤห์วรวิหารในปี พ.ศ.2325 เป็นระยะเวลา 237 ปี. ปี 2562 จึงนำเถ้าอัฐิพระยาพิชัยได้กลับบ้านเกิดอีกครั้ง

เหรียญพระยาพิชัย รุ่น รวมพลังสามัคคี
เฉลิมฉลอง 100 ปี รุ่น รวมพลังสามัคคี (องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ )
ทำพิธีพุทธาภิเษก นิมนต์พระเกจิอาจารย์ดังทั่วประเทศ 80 รูป ร่วมเจริญจิตภาวนาและอธิษฐานจิตนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลพระยาพิชัยดาบหัก “เหรียญหลวงพ่อเพชร-สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ-เหรียญพระยาพิชัยดาบหัก”
----------------------------------

ในวัยเด็กบิดามารดานำไปฝากเรียนหนังสือที่วัด
มหาธาตุ (วัดใหญ่) เมื่ออายุได้14 ปี เกิดชกต่อยกับลูกเจ้าเมืองพิชัย จนหนีออกมาจากวัดเปลี่ยนชื่อเป็น "ทองดี "
ได้ฝึกฝนมวยไทยและฟันดาบจนมีฝีมือ
พ.ศ. 2305 เดินทางผจญภัยไปถึงเมืองตาก ขึ้นชกมวยในงานถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ปราบครูมวยชื่อดังได้ จึงได้รับ
การชุบเลี้ยงจากพระเจ้าตาก แต่งตั้งให้เป้น "หลวงพิชัยอาษา"
พ.ศ. 2308 พม่ายกกองทัพมาดีกรุงศรีอยุธยา ถึงวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2309 กรุงศรีอยุธยาใกล้แตก พระยาตาก
รวบรวมทหารตีทัพพม่าออกไปตั้งมั่นที่เมืองปราจีนบุรี หลวงพิชัยอาษาร่วมรบอย่างกล้าหาญ วันที่ 14 มิถุนายน
พ.ศ. 2310 พระยาตากยกทัพเข้าตีเมืองจันทบุรีได้ และสถาปนขึ้นเป็นกษัตริย์
วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2310 หลวงพิชัยอาษา ร่วมทัพพระเจ้าตากสิน เข้าตีพม่าที่ค่ายโพธิ์สามต้น สุกี้แม่ทัพ
ใหญ่ พม่ายอมจำนน กรุงศรีอยุธยาได้รับการกอบกู้เอกราช พระเจ้าตากสินย้ายเมืองหลวงไปตั้งที่กรุงธนบุรี
พ.ศ. 2311 พระเจ้าตากสินแต่งตั้งหลวงพิชัยอาษาเป็น "เจ้าหมื่นไวยวรนารถ" นายทหารเอกราชองครักษ์ ยกทัพ
ไป ตีเมืองพิมายซึ่งกรมหมื่นเทพพิพิธตั้งตัวเป็นกษัตริย์ครองเมืองอยู่ หลังชนะศึกได้รับการแต่งตั้งให้เป็น
"พระยาสีหราชเดโช"
พ.ศ. 2312 พระยาสีหราชเดโชเป็นแม่ทัพหน้า ยกทัพไปตีเมืองนครศรีธรรมราช
์พ.ศ. 2313 ทัพพระเจ้าตากสินเข้าตีและยึดเมืองพิษณุโลกและเมืองสวางคบุรีได้พระยาสีหราชเดโช ได้รับแต่งตั้ง
เป็น "พระยาพิชัย" เป็นผู้สำเร็จราชการครองเมืองพิชัย และได้รับพระราชทานเครื่องยศเสมอด้วยเจ้าพระยาสุรสีห์
พ.ศ. 2315 โปสุพลา แม่ทัพพม่า ซึ่งรักษาเมืองเชียงใหม่ ได้ยกทัพมาดีเมืองลับแล แล้วเลยมาตีเมืองพิชัย
พระยาพิชัย นำทหารออกสู้รบป้องกันเมืองไว้ได้
พ.ศ. 2316 โปสุพลา ยกทัพมาตีเมืองพิชัยอีก พระยาพิชัยนำทหารออกสู้รบจนดาบหักไปข้างหนึ่ง ทหารพม่า
แตกพ่าย ไปอีกครั้ง จากการรบครั้งนั้น จึงได้รับสมัญญาว่า "พระยาพิชัย ดาบหัก"
พ.ศ.2325 สิ้นแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าตากสิน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้ตั้งกรุงเทพฯ เป็น เมือง
หลวง พระยาพิชัยดาบหักทูลขอถวายความกตัญญู ความจงรักภักดีและถายชีวิตเป็นราชพลี ตามพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าตากสิน เมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ส. 2325

คาถาบูชาท่านพ่อพระพระยาพิชัยดาบหัก
ตั้งนะโม 3 จบ นมัสการพ่อพระยาพิชัยดาบหัก
เอหิราช เอหิวิญญานัง ขอดวงวิญญาณในสรวงสวรรค์ ท่านพ่อพระยาพิชัยดาบหัก จงมาประสาทประสิทธิ์พระ
พรชัย ให้ศิษย์และลูกหลานทุกคน จงมีแต่ความสุข ความเจริญ มีโชคมีลาภ มีแต่ความสำเร็จ ปราศจากทุกข์โทษโพยพัย
ภยันตรายทั้งปวง เอหิมะมะ มามา มาเรโส ธายะประสิทธิ ภะวันตุเม
เครื่องบวงสรวง หรือถวายแก้บน
1) หัวหมูต้ม
2) ไก่ต้ม
3) สุรา
4) ผลไม้
5) พวงมาลัย
6) การชกมวยถวาย
7) ขนมมงคล
8) น้ำเปล่า / น้ำเขียว / น้ำแดง
9) บายศรี
10) รูปปั้นไก่เขียวพาลี
11) การจุดธูป 9 ดอก หรือ 16 ดอก