พระประจำปีจอ ปางชี้อัครสาวก พระพุทธรูปคนเกิดปีจอ พระปางชี้อัครสาวกพระประจำตัวสำหรับผู้ที่เกิดปีจอ

พระประจำปีจอ ปางชี้อัครสาวก
พระพุทธรูปอยู่ในพระอิริยาบทประทับ (นั่ง) ขัดสมาธิ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา (ตัก) พระหัตถ์ขวาชี้นิ้วออกไปข้างหน้า เป็นกิริยาทรงประกาศอัครสาวก ให้ปรากฏในที่ประชุมสงฆ์
พระอัครสาวก หมายถึง พระสาวกผู้เลิศ, สาวกผู้ยอดเยี่ยม จำนวน ๒ รูป ได้แก่.-
๑.พระสารีบุตร ชื่อเดิมของท่านได้แก่ อุปติสสะ เมื่อบวชแล้วได้ 15 วัน พระสารีบุตรได้ฟังพระธรรมเทศนาเวทนาปริคคหสูตร ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ทีฆนขปริพาชก (ชื่อปริพาชกพวกหนึ่ง ตระกูลอัคคีเสสนะ) ที่ ถ้ำสุกรขาตา เขาคิชฌกูฏ ก็ได้บรรลุพระอรหัต ต่อมาท่านได้รับยกย่องว่าเป็นผู้เลิศในทางมีปัญญามาก และเป็นพระอัครสาวกฝ่ายขวา ของพระพุทธเจ้า ท่านพระสารีบุตร นิพพานก่อนพระพุทธเจ้าไม่กี่เดือน (อรรถกถาว่าท่านนิพพานในวันเพ็ญเดือน ๑๖ จึงเท่ากับ ๖ เดือนก่อนพุทธปรินิพพาน) พระพุทธองค์โปรดให้ก่อสถูปบรรจุอัฐิธาตุของท่านไว้ ณ พระเชตวัน เมืองสาวัตถี
๒.พระมหาโมคคัลลานะ ชื่อเดิมของท่านได้แก่ โกลิตะ ท่านได้บรรลุอรหัตตผล เป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า โดยท่านได้รับยกย่องเป็นผู้เลิศในทางมีฤทธิ์มาก ชื่อของท่านนิยมเรียกกันง่ายๆ ว่า พระโมคคัลลาน์ ในตอนปลายพุทธกาล พระมหาโมคคัลลานะ ท่านนิพพานก่อนพุทธปรินิพพาน พระพุทธเจ้า จึงโปรดให้ก่อสถูปบรรจุอัฐิธาตุของท่านไว้ ใกล้ซุ้มประตูวัดเวฬุวัน ในเขตเมืองราชคฤห์

เกี่ยวกับการที่พระพุทธองค์ได้อัครสาวก คือ พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ เดิมคืออุปติสสะและโกลิตะเป็นสหายรักกัน วันหนึ่งอุปติสสะ ได้ฟังธรรมจากพระอัสสชิ และได้ดวงตาเห็นธรรม เป็นพระโสดาบัน จึงไปแสดงธรรมแก่โกลิตะจนได้ดวงตาเห็นธรรมเช่นกัน ทั้งสองจึงพาบริวารไปยังพระเวฬุวันมหาวิหาร เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทอดพระเนตรเห็นอุปติสสะและโกลิตะนำบริวารเดินมา พระพุทธองค์ได้ตรัสแก่เหล่าภิกษุทั้งหลายว่า ทั้งสองคือคู่แห่งอัครสาวกผู้เป็นธรรมเสนาบดี พระพุทธองค์ประทานอุปสมบทให้ทั้งสองด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา เมื่ออุปสมบทแล้วนิยมเรียกพระอุปติสสะว่า พระสารีบุตร พระโกลิตะว่า พระมหาโมคคัลลานะ ตามชื่อมารดาของท่าน ต่อมาพระสารีบุตรได้เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวา พระมหาโมคคัลลานะเป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้าย
------------
พระธาตุประจำปีจอ (ปีหมา) พระธาตุเกศแก้วจุฬามณี วัดเกตุการาม จ.เชียงใหม่

เจดีย์จุฬามณีเป็นเจดีย์ที่อยู่ไกลถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จึงมีการสมมติให้เจดีย์องค์หนึ่งในประเทศพม่าเป็นที่กราบไหว้แทน คนไทยเรียกเจดีย์องค์นี้ว่า “พระธาตุอินทร์แขวน” ตั้งอยู่บนก้อนหินสูง 5.5 เมตร ใต้พระเจดีย์เป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุ โดยอนุญาตให้เฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่จะข้ามเข้าไปกราบ และปิดทองถึงองค์พระธาตุได้

เจดีย์วัดเกตุการาม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง ถูกกำหนดให้เป็นองค์แทนเจดีย์จุฬามณีอีกองค์หนึ่ง ซึ่งนอกจากจะเป็นการสะดวกในการเดินทางเพื่อกราบไหว้แล้ว อีกเหตุผลหนึ่งก็คือชื่อของวัดเสียงเหมือนคำว่า “เกศ” แก้วจุฬามณี การลอยโคมก็เป็นการบูชาพระเจดีย์จุฬามณีบนสวรรค์อีกวิธีหนึ่งของชาวล้านนา นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระวิหารใหญ่ที่สร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ และพิพิธภัณฑ์เก็บของใช้พื้นบ้านให้ชมอีกด้วย เชื่อกันว่าเมื่อมาสักการะจะนำพาแต่สิ่งดีงามเข้ามาในชีวิต
คำไหว้บูชาพระบรมธาตุ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
ตาวะติงสายะ ปุรัมเม เกสะจุฬามะณี สะรีระปัพพะเต ปูชิตา สัพพะเทวานัง ตังสิระสา ธาตุอุตตะมัง อะหัง วันทามิ สัพพะทา
