พระแม่ลักษมี พระแม่ลักษมีวัดแขก พระแม่ลักษมีประทานความร่ำรวย บูชาพระแม่ลักษมี ปางพระแม่ลักษมี

พระแม่ลักษมี เทวีแห่งความมั่งคั่งร่ำรวย และความรักที่บริบูรณ์
พระลักษมีเป็นเทวีแห่งความมั่งคั่ง, โชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง (ผู้บูชาพระพิฆเนศ จะต้องบูชาพระแม่ลักษมีตั้งไว้ด้านขวามือของพระพิฆเนศ) เป็นพระมเหสีและศักติ (พลัง) ของพระวิษณุ พระองค์เป็นหนึ่งในสามเทวี “ตรีเทวี” คือพระลักษมี, พระปารวตี, พระสรัสวตี นอกจากการนับถือในฮินดูแล้ว ยังพบการบูชาพระลักษมีเป็นเทพเจ้าองค์สำคัญองค์หนึ่งในศาสนาเชน
ในศาสนาพุทธแบบทิเบต, เนปาล และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการนับถือพระโพธิสัตว์พระนามว่าพระวสุธารา ซึ่งมีพระลักษณะคล้ายคลึงกับพระลักษมีอย่างมาก มีแตกต่างเพียงลักษณะเชิงประติมานวิทยาบางส่วนเท่านั้น
ตามตำนานของศาสนาฮินดู เชื่อกันว่าพระองค์เกิดจากมหาสมุทรจากการกวนมหาสมุทรเมื่อครั้งสร้างโลก (กวนเกษียรสมุทร) และได้เลือกพระวิษณุเป็นพระสวามีนิรันดร์ เมื่อพระวิษณุได้อวตารเป็นพระราม พระแม่ลักษมีก็ได้อวตารตามไปเป็นพระสีดา และเมื่อพระวิษณุอวตารเป็นพระกฤษณะ พระแม่ลักษมีก็อวตารเป็น พระราธา หรือ พระรุกมิณี ในปางปรศุรามาวตารก็ไปอวตารเป็น พระแม่ธรณี ในปางวามนาวตารก็อวตารไปเป็น พระนางกมลา เป็นต้น ในบันทึกโบราณของอินเดียมักถือให้สตรีทั้งปวงเป็นรูปแปลงของพระลักษมี การสมรสและความสัมพันธ์เชิงสามี-ภรรยาของพระลักษมีและพระวิษณุ เป็นแบบอย่างในพิธีกรรมต่าง ๆ ของการแต่งงานแบบฮินดู

ในศิลปะอินเดีย พระลักษมีทรงเครื่องแต่งกายอย่างงดงาม หรูหรา ประดับด้วยเครื่องประดับต่าง ๆ ผิวกายสีทองอร่าม และมีพาหนะเป็นนกฮูก พระองค์ประทับในท่าทางแบบโยคะ ทั้งนั่งและยืน บนฐานดอกบัวและมีดอกบัวในหัตถ์ อันเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภ การเข้าใจตัวเอง และการเป็นอิสระเชิงจิตวิญญาณ ประติมานวิทยาของพระองค์มักแสดงพระองค์มีสี่กร อันแสดงถึงปุรุษารถะทั้สี่ประการ (เป้าหมายในชีวิตทั้งสี่) คือ ธรรม, กาม, อารถะ และ โมกษะ หลักฐานเชิงโบราณคดีแสดงให้เห็นว่ามีการบูชาพระลักษมีมาตั้งแต่หนึ่งสหัสวรรษก่อนคริสตกาล เทวรูปต่าง ๆ ของพระองค์ยังพบในโบราณสถานต่าง ๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อายุราวครึ่งคริสต์สหัสวรรษแรก เทศกาลที่ฉลองพระลักษมีได้แก่ ทีปาวลี และ Sharad Purnima (Kojagiri Purnima)
พระแม่ลักษมีเทวีทรงเป็นเทวีแห่งโชคลาภ ที่กล่าวกันว่าทรงอำนาจค้ำจุนอย่างวิเศษ!! มีบันทึกอย่างจารึก Junagdh Inscription ของ Skandagupta กษัตริย์รุ่นปลายของราชวงศ์คุปตะได้กล่าวว่า ด้วยอำนาจแห่งเทวีลักษมีนี่เอง ที่ทรงส่งเสริมอำนาจเทพสวามีคือ พระวิษณุ จนได้ชื่อว่า เทพเจ้าผู้บริหารโลก การบูชาพระแม่ลักษมี จึงมีแพร่หลายทั่วไปในอินเดีย เพราะเชื่อว่าผู้ที่สามารถบูชาจนเป็นที่พอพระทัย เทวีลักษมีจะทรงประทานศิริและความมั่งคั่งให้อย่างน่าอัศจรรย์ใจทีเดียว
ส่วนในประเทศไทยนอกจากคติการบูชาเจ้าแม่โพสพ แล้วก็มีการบูชาพระแม่ลักษมีอยู่บ้าง สำหรับผู้ที่เคารพบูชาตามจารีตฮินดู

สำหรับวันสำคัญ ก็มีหลายวันที่บูชาพระแม่ลักษมีในโอกาสต่างๆกัน อย่างวัน ขึ้น 9 ค่ำ เดือนอัษฐะ (มิถุนายน-กรกฏาคม) เป็นการบูชา พระนางสีดา (ลักษมีอวตาร) ร่วมกับ พระราม และ หนุมาน เรียกว่า วันสีดา นวะมี
หรืออย่างวันแรม 14 ค่ำ เดือนการติก (ตุลาคม-พฤศจิกายน) เป็นวัน พิธีแห่งแสงสว่าง เรียกว่า วันดีปาวลี เชื่อว่าพระแม่ลักษมีเทวีจะโปรดประทานความร่ำรวยแก่ผู้บูชาพระนางและยังมีวันอื่นๆ อีกที่กำหนดให้บูชาพระแม่ลักษมีเทวีในโอกาสที่แตกต่างกันออกไป แต่จุดมุ่งหมายเดียวกันคือ การขอรับพรอันศักดิ์สิทธิ์จากพระนาง ในคุณสมบัติที่พระนางมีอย่างเปี่ยมล้น คือ ศิริ-ความดีงามและความมั่งคั่งร่ำรวยนั่นเอง..

- ข้อสำคัญที่ควรจดจำสำหรับพระแม่ลักษมี คือ
เนื่องด้วยพระแม่ลักษมีทรงเป็นเทวีแห่งความงาม ช่างอินเดียจึงมักทำรูปพระนางให้เป็นหญิงที่งดงามที่สุดตามคติอินเดีย ตามตำรามักกล่าวกันว่า ทรงมีพระวรกายเป็นสีทอง ทรงพัสตราภรณ์สีเหลือง แดง หรือ ชมพู ประทับนั่งหรือยืนบนดอกบัวอันเป็นสัญลักษณ์แห่งพระนาง บางครั้งก็ประทับบนหลังช้าง ทรงมี 4 พระกรเมื่ออยู่โดยลำพัง แต่ถ้าประทับร่วมกับพระวิษณุแล้ว ก็ทรงมี ๒ พระกรบ้าง 4 พระกรบ้าง รัศมีแห่งองค์พระแม่ลักษมีนั้น กล่าวกันว่าสุกปลั่งเป็นประกายอย่างสายฟ้าแลบ กลิ่นหอมจากพระวรกายนั้นประหนึ่งกลิ่นดอกบัว หอมจรุงไปไกลถึงหลายร้อยโยชน์

พระแม่ลักษมี ทรงได้รับความนับถือในหมู่ชาวฮินดูทุกนิกาย ด้วยเหตุที่ทรงเป็นเทวีที่มีน้ำพระทัยกรุณา มีแต่ช่วยเหลือมนุษย์ให้ได้รับความสุขความเจริญ!!
คาถาบูชา
โอม โพสะวะโภชะนัง อุตตะมะ ลาภัง มัยหัง สัพพะสิทธิ หิตัง โหตุ