พระเปิดโลก พระปางเปิดโลกห้อยคอ ประวัติ คาถาพระปางเปิดโลก บูชาพระเปิดโลก พุทธประวัติพระเปิดโลก

คำว่าเปิดโลก มีความหมายว่า ใช้ได้ ๑๐๘ อย่าง รวมไว้ทุกสิ่งอย่างแล้ว โดยเฉพาะท่านใดที่ดวงไม่ดี ชะตาชีวิตไม่ราบรื่น ธุรกิจการงานติดขัด ภัยพิบัติบังเกิด อยู่ในสถานที่อันตราย จักเปิดของคว่ำให้หงาย โชคร้ายจักกลายเป็นดี มีสิ่งใดปิดบังซ่อนเร้นทับถมจะเปิดออกมา บุญกุศลโชคลาภที่ติดขัดข้องคา จะย่นเวลามาให้เรา และอื่นๆ สารพัด ปางเปิดโลก จักมีสตางค์เข้ามาไม่ขาดสาย ไม่รวย แต่ไม่เลวร้าย ที่ดีอยู่แล้วจะยิ่งขึ้นไป ฐานะดีมีสกุลรุนชาติใหญ่โตเพียงใด อย่าได้ประมาท ปางเปิดโลก

พระปางเปิดโลก เป็นปางหนึ่งในพระพุทธรูปปางต่างๆ 66 ปาง ซึ่งได้รับการรังสรรค์โดยกำหนดตามพระอิริยาบถต่างๆ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันนับเป็นปางที่มีความหมายและความสำคัญทางพระบวรพระพุทธศาสนาสืบมาถึงปัจจุบัน และเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง “พระปางเปิดโลก พระพุทธรูปอิริยาบถประทับยืนอยู่เหนือดอกบัว พระหัตถ์ทั้งสองห้อยลงข้างพระวรกาย แบฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองออกไปข้างหน้า เป็นกิริยาทรงเปิดโลกบางแบบยกฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองขึ้นถือว่าเป็นพระแห่งปัญญา ให้มีสติปัญญาดี มีความฉลาดหลักแหลม”
พระพุทธรูปปางเปิดโลกเป็นพระพุทธรูปในพระอิริยาบถประทับยืนอยู่เหนือดอกบัว พระหัตถ์ทั้งสองห้อยลงข้างพระวรกาย แบฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองออกไปข้างหน้า เป็นกิริยาทรงเปิดโลกบางแบบยกฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองขึ้นถือว่าเป็น‘พระแห่งปัญญา’ให้มีสติปัญญาดี มีความฉลาดหลักแหลม ตามบทความ “ห้อยพระถูกโฉลก” ของ ธ. ธรรมรักษ์ นับเป็นพระต้องโฉลกและเสริมสิริมงคลกับผู้ที่เกิดวันพฤหัสบดี ซึ่งเกณฑ์ดวงเป็นผู้ที่มีปัญญา มีความรู้กว้างขวาง และมีความเที่ยงตรงครับ
ตามพุทธประวัติได้กล่าวถึง “พระปางเปิดโลก”ไว้ดังนี้

“... หลังจากที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ในวันอาสาฬหบูชา ณ นครสาวัตถี แล้วได้เสด็จจำพรรษาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของท้าวสักกะเทวราช เพื่อแสดงธรรมโปรดพระมารดาที่ประทับอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต พระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนา (พระอภิธรรม) แก่พระมารดา ในที่สุดแห่งเทศนา พระมารดาทรงบรรลุโสดาปัตติผล เป็นพระโสดาบัน ครั้นอยู่จำพรรษาปวารณาครบ 3 เดือน จึงได้ตรัสกับท้าวสักกะเทวราชว่ามีพระประสงค์จะเสด็จกลับยังโลกมนุษย์ ท้าวสักกะเทวราชจึงได้นิรมิตบันไดทั้ง 3 คือ บันไดทอง บันไดแก้ว บันไดเงิน ตีนบันไดทั้ง 3 ตั้งอยู่ที่ประตูเมืองสังกัสสะนคร ส่วนหัวบันไดพาดอยู่ที่เขาสิเมรุ พระพุทธองค์เสด็จลงทางบันไดแก้วตรงกลาง เทวดาลงทางบันไดทองทางด้านขวา มหาพรหมลงทางบันไดเงินทางด้านซ้าย ในขณะที่เสด็จลงจากเทวโลกนั้น พระพุทธองค์ทรงทำ‘ยมกปาฏิหาริย์’ อีกครั้งหนึ่ง คือ ทรงเปิดโลกทั้ง3 ได้แก่เทวโลก มนุษย์โลก และ ยมโลก พร้อมทั้งทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสี ทำให้สัตว์โลกทั้ง3มองเห็นกันและกัน เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง อนึ่งพุทธบริษัทที่เห็นพุทธานุภาพแล้ว ล้วนแต่ปรารถนาพุทธภูมิ ...”

ด้วยเหตุดังกล่าว จึงมีผู้นิยมจัดสร้าง ‘พระพุทธรูปปางเปิดโลก’ เพื่อระลึกถึงวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากเทวโลกในวันปาฏิบท คือ วันแรม1 ค่ำ เดือน11 มาแต่โบราณกาล จะสังเกตได้จากการจัดสร้างพระพุทธรูปปางเปิดโลกตามวัดวาอารามต่างๆ รวมถึงพระกรุเก่าที่มีการขุดค้นพบ สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังได้ถือเอาวันดังกล่าวเป็นปฐมเหตุแห่ง วันเทโวโรหนะ หรือ วันตักบาตรเทโวโรหนะอีกหนึ่งวันสำคัญทางพุทธศาสนาอีกด้วย
พุทธคุณ และ ความเชื่อ พระปางเปิดโลก จะนำพาชีวิตและครอบครัวไปในทางที่ดีไปในทางที่สว่างไสวครอบครัวและชะตาชีวิตที่ร้ายร้ายก็จะกลับกลายเป็นดีทันตาเห็น ผู้ที่ห้อยบูชาพระปางเปิดโลกนี้มีพุทธคุณในเรื่องการ “เปิดทางสว่าง” ทำให้การดำเนินชีวิตไปสู่ความดีงาม เปิดทางแห่งการรับ โชคลาภ วาสนา บารมี

พระคาถาพระเจ้าเปิดโลกเบิกทรัพย์
(ท่องนะโม 3 จบ)
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
พระคาถา
อิติปิโส โลกะนาถัง
พุทธังบังเกิด ธัมมังบังเกิด สังฆังบังเกิด
พระเจ้าประเสริฐ เปิดโลกพระคาถา
อิติปิอะระหัง โมเปิดไว้ให้เย็น ยะที่สุด
อิติอะระหัง ทิพย์พระจักร์ขุง อุทะปาริยานัง
พุทธะนิมิตตัง อุปปันนัง โหหิ
อิติอะระหัง ทิพย์พระจักร์ขุง อุทะปาริยานัง
ทัมมะนิมิตตัง อุปปันนัง โหหิ
อิติอะระหัง ทิพย์พระจักร์ขุง อุทะปาริยานัง
สังฆะนิมิตตัง อุปปันนัง โหหิ