พระแก้วมรกตทรงเครื่อง พระแก้วมรกต 3 ฤดู ห้อยคอ ตั้งบูชา เปิดบูชาพระแก้วมรกตตั้งบูชาทรงฤดูหนาวฤดูร้อนฤดูฝน

พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรทรงเครื่อง ขึ้นชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า วัดพระแก้ว เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ พ.ศ. 2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์
พระแก้วมรกตเนื้อเเร่เหล็กน้ำพี้ แร่ศักดิ์สิทธิ์ของชาว จ.อุตรดิตถ์ มีความขลังในตัว ผู้ใดห้อยบูชาพระแก้วมรกตทรงฤดูร้อน พระแก้วมรกตทรงฤดูหนาว พระแก้วมรกตทรงฤดูฝนมีความเชื่อว่าจะรอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวงแคล้วคลาดอยู่รอดปลอดภัยทุกประการ บันดาลความสุขความเจริญ ความสำเร็จ ภัยอันตรายใดๆหรือคนคิดร้ายจะทำร้ายไม่สามารถทำอันตรายกล้ำกลายได้ ชีวิตผู้ห้อย ผู้บูชาจะเป็นปกติสุขทุกประการ มีความร่มเย็นเป็นสุข หากใครที่อยู่ไม่เป็นปกติสุข มีแต่ปัญหาความทุกข์ต่างๆ แนะนำให้ห้อยบูชาพระแก้วมรกตห้อยคอ หรือตั้งบูชาไว้ที่บ้านจะเป็นปกติสุขดียิ่ง
หลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพระแก้วมรกต มีทั้งเป็นลายลักษณ์อักษรและหลักฐานทางโบราณคดี ในส่วนที่เป็นลายลักษณ์อักษรนั้นได้ปรากฎอยู่ในเอกสารโบราณมากมาย อาทิเช่น เรื่องรัตน์พิมพ์วงค์ ตำนานพระแก้วมรกต เรื่องพระรัตนปฏิมา ในหนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ พงศาวดารเหนือ ราชพงศาวดารกรุงกัมพูชา ตำนานพระแก้วมรกตฉบับหลวงพระบาง และพงศาวดารโยนก เป็นต้น
จากเอกสารดังกล่าว สามารถประมวลได้ว่า พระแก้วมรกต สร้างขึ้นจากความดำริของพระนาคเสนเถระ แห่งเมืองปาตลีบุตร ในชมพูทวีป ( ประเทศอินเดียวในปัจจุบัน ) เมื่อประมาณ พ.ศ.500 จากนั้นก็ได้มีการอัญเชิญไปประดิษฐานตามเมืองสำคัญต่างๆ ตามลำดับ ดังนี้

เกาะลัง เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๘๐๐
เมืองนครธม ในอาณาจักรขอมโบราณ เมื่อประมาณปี พ.ศ.๑๐๐๐
เมืองอโยชปุระ หรือเมืองอโยธยาโบราณ ในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช
เมืองกำแพงเพชร ในสมัยพระยะาวิเชียรปราการ
เมืองเชียงราย ในสมัยเจ้ามหาพรหม
นครเขลางค์ หรือเมืองลำปาง ระหว่างปี ๑๘๗๙ - พ.ศ. ๒๐๑๑
เมืองเชียงใหม่ ระหว่างปี พ.ศ. ๒๐๑๑ - พ.ศ. ๒๐๙๖ ในสมัยพระเจ้าติโลกราช
เมืองหลวงพระบาง ในปี พ.ศ. ๒๐๙๖
เมืองเวียงจันทร์ จนถึง พ.ศ. ๒๓๒๑
กรุงธนบุรี ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๒๑ - พ.ศ. ๒๓๒๗
กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๓๒๗ จนถึงปัจจุบัน
ด้านหลักฐานทางโบราณคดี ปัจจุบันในภาคเหนือของประเทศไทยยังคงปรากฏร่องรอยในโบราณสถานที่เกี่ยวข้องกับพระแก้วมรกตอยู่อย่างชัดเจนในหลายพื้นที่ ได้แก่
โบราณสถานวัดพระแก้ว ในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
เจดีย์โบราณ วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม จังหวัดลำปาง
เจดีย์หลวง ในวัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่
เจดีย์โบราณ ในวัดพระแก้ว จังหวัดเชียงราย

คาถาบูชาพระแก้วมรกต
พุทธะมะหามะณีระตะนะปะฏิมากะรัง ปูเชมิ ทุติยัมปิ พุทธะมะหามะณีระตะนะปะฏิมากะรัง ปูเชมิ ตะติยัมปิ พุทธะมะหามะณีระตะนะปะฏิมากะรัง ปูเชมิ เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ มะหาเตโช เจวะ มะหาปัญโญ จะ มะหาโภโค จะ มะหายะโส จะ ภะวันตุ เม นิพพานัสสะ ปัจจะโย โหตุ (หรือ วาละลุกัง สังวาตังวา)
