พระแม่ตารา บูชาพระแม่ตารา พระดารา หรือ พระตารา ๑ ใน ๑๐ ของพระมหาวิทยา

พระดารา หรือ พระตารา ผู้รักษาดวงวิญญาณ์แห่งพระศิวะ พระศิวะได้รับพิษร้ายจากการกวนเกษียรสมุทร พระนางปารวตีจึงอวตารเป็นร่าง “พระแม่ตารา” เพื่อช่วยรักษาพระสวามีให้พ้นภัย

“พระแม่ตารา” ผู้รักษาดวงวิญญาณ์แห่งพระศิวะ เป็นเทพีในศาสนาฮินดู ซึ่งหมายความว่า ดาว เป็นเทวี ๑ ใน ๑๐ ของพระมหาวิทยา พระวรกายสีน้ำเงิน มี4พระกร เหยียบร่างศพที่เน่าเปื่อย ทรงห่มหนังเสือ ท่อนบนเปลือยเปล่า พระหัตถ์ขวาถือถาด ซ้ายถือดอกบัวสีฟ้า พระหัตถ์ขวาบนถือดาบที่มีรูปร่างคล้ายเคียว และพระหัตถ์ซ้ายทรงถือดาบเช่นเดียวกัน ทรงเป็นเทวีในการรักษาโรค
ทารา (เรียกตามภาษาสันสกฤต) ใน ธิเบต จะเรียกกันว่า Jetsun Dolma ซึ่ง ทารา ที่นับถือกันโดยทั่วไปก็คือ พระโพธิสัตว์ ใน พุทธนิกายมหายานนั่นเอง ซึ่งปรากฏกายในรูปของเพศหญิง

โดยนิยมบูชากันเพื่อให้สำเร็จในหน้าที่การงาน ว่ากันว่า ทารา เป็นเทพที่ผู้ฝึกปฏิบัตสมาธิในทางวชิรยานของทิเบต ให้การเคารพนับถือกับเป็นอย่างมาก พระนางคือ “พระแม่แห่งการหลุดพ้น” ผู้เป็นตัวแทนแห่งความบริสุทธิ์และการกระทำที่นำไปสู่ความรู้แจ้ง คำว่า “ทารา” หรือบ้างก็เรียกว่า “ตารา” นั้นมีที่มาจากรากศัพท์ภาษาสันสกฤตของคำว่า “ตริ” ที่แปลว่า “ข้าม” ดังนั้นจึงสื่อความหมายถึง ผู้ที่พาสรรพสัตว์ข้ามพ้น มหานทีแห่งการเวียนว่ายตายเกิด และความทุกขเวทนา

ทารา หรือ ตารา มีด้วยกัน 21 รูปนาม แต่ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางคือ
พระนางทาราเขียว เชื่อกันว่าท่านจะคอยปกป้องคุ้มครองจากความกลัว ความโชคร้ายทั้งปวง ที่เกิดจาก ความไม่รู้ 8 ประการ ที่ก่อให้เกิดความเสื่อมขึ้นในมนุษย์ ซึ่งเปรียบออกมาเป็นสัญลักษณ์ได้ดังนี้ คือ
1. สิงโต (ความทะนงตน)
2. ช้าง ป่า (ความเชื่อที่ผิด และ ความโง่เขลา)
3. ไฟ (ความโกรธ และ ความเกลี่ยดชัง)
4. งู (ความอิจฉา ริษยา)
5. โจรผู้ร้าย (ความคลั่งไคล้ ความเลื่อมใส ในทางที่ผิด)
6. ทาส (ความโลภ ความตระหนี่)
7. น้ำล้น (ความปรารถนา ความอยาก สิ่งผูกติดทางอารมณ์)
8. วิญญาณ ร้าย (ความหลง)
พระนางทาราขาว เชื่อกันว่าท่านรักษาอาการ ความเจ็บไข้ได้ป่วย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทำให้ผู้นับถือมีสุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพจิตดี ทำให้ อายุยืนยาว และกล่าวกันว่ารัศมีของพระนางขาวนวลเฉกเช่นกับแสงจันทร์
พระนางทาราแดง สอนให้ตระหนักรู้ถึงวิธีการที่จะปรับเปลี่ยนกิเลสตัณหา เป็นความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และความรัก ดลบันดาลให้เจอแต่สิ่งดีๆ

พระนางทาราน้ำเงิน (Ekajati) ได้รับการนับถือให้เป็นผู้ปกป้องนิกายนิงมะ (เป็นนิกายสำคัญนิกายหนึ่งของพุทธศาสนาในทิเบต ถือกำเนิดจากอาจารย์ชาวอินเดียคือ ปัทมสัมภวะ ที่เดินทางมาทิเบตเมื่อ พ.ศ. 1350 ซึ่งได้รับการนับถือจากชาวทิเบตอย่างกว้างขวาง และเป็นผู้สร้างวัดสัมเยซึ่งเป็นวัดแห่งแรกในทิเบต ปัทมสัมภวะ ได้เผยแพร่คำสอนของนิกายตันตระ จนมีสานุศิษย์ที่สำคัญหลายคน) ซึ่งพระนางทาราน้ำเงินนี้มีพลังอำนาจมาก เพื่อใช้ในการปกป้องพระธรรมคำสั่งสอนนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม คำว่า “ตารา” มาจากรากศัพท์สันสกฤต “ตริ” แปลว่า “ข้าม” ซึ่งหมายถึง “การก้าวข้าม” หรือ “การข้ามผ่านสังสารวัฏ” พระแม่จึงเป็นตัวแทนของการนำทางข้ามผ่านการเวียนว่ายตายเกิดและความทุกขเวทนาทั้งหลาย ผู้คนนิยมบูชาพระแม่ตาราเพื่อขอช่วยดลบันดาลให้ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ในชีวิต ช่วยชี้ทางสว่าง และปกป้องคุ้มครองให้พ้นจากภยันตรายทั้งปวง
รูปเคารพของพระแม่ตาราและพระแม่กาลีมีความคล้ายกันหากมองเพียงผิวเผิน แต่เมื่อเปรียบเทียบความแตกต่าง พระแม่กาลีมีกายสีดำ ส่วนพระแม่ตารามีกายสีน้ำเงิน มีพระกรสี่ข้าง ถืออาวุธประกอบไปด้วยดาบ ถ้วยกะโหลก ดอกบัวสีน้ำเงิน และมีด ยืนด้วยท่าก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า นุ่งผ้าทำจากหนังเสือ และสวมมงกุฎทำด้วยหัวกะโหลก