พระสมเด็จ วัดระฆังฯ พิมพ์ทรงเจดีย์ บูชาพระสมเด็จ วัดระฆังฯ พิมพ์ทรงเจดีย์ คาถาบูชาพระสมเด็จ วัดระฆังฯ พิมพ์ทรงเจดีย์
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์เจดีย์ ลักษณะพิมพ์เป็นพระนั่งในระฆังคว่ำ แลเห็นตั้งแต่พระเกศจรดฐานชั้นล่างสุดเรียงเสมอเป็น
แนวรูปทรงเจดีย์ ลักษณะลำตัวพระแลดูหนากว่าทุกพิมพ์
พระสมเด็จ วัดระฆังฯ พิมพ์ทรงเจดีย์ เท่าที่มีการยอมรับและมีมูลค่ารองรับด้วยนั้น มีแม่พิมพ์ทรงเจดีย์แม่พิมพ์ใหญ่พระแม่พิมพ์นี้หายากมากๆ ในสังคมพระเครื่องเท่าที่มีการบันทึกภาพไว้มีเพียงแค่ 2 องค์เท่านั้น
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามีแค่ 2 องค์ เพียงแต่เท่าที่มีการบันทึกภาพไว้แค่ 2 องค์ แม่พิมพ์ที่มีพบเห็นมากที่สุดก็คือแม่พิมพ์อกวี หรือแม่พิมพ์ที่มีเส้นชายจีวร แม่พิมพ์นี้จะพบเห็นภาพถ่ายมากที่สุด แม่พิมพ์เล็ก เป็นอีกแม่พิมพ์หนึ่งที่พบเห็นไม่มากนัก
ส่วนอีกแม่พิมพ์หนึ่งเป็นแม่พิมพ์ที่ฐานมีเส้นแซม พระแม่พิมพ์นี้ตั้งแต่ในสมัยก่อนอาจจะถูกยกไปอยู่ในพิมพ์เกศบัวตูมก็มี ซึ่งการแยกพิมพ์ก็มีอยู่ 2 กลุ่ม แต่การพิจารณาว่าใช่หรือไม่นั้นจะมีหลักการพิจารณาที่เหมือนกัน จึงไม่มีปัญหาอะไร ก็แตกต่างกันแค่การเรียกชื่อพิมพ์เท่านั้น
พระแม่พิมพ์นี้ในส่วนของกลุ่มที่จัดให้อยู่ในหมวดพิมพ์เกศบัวตูมก็จะแยกเป็น พิมพ์เกศบัวตูมแม่พิมพ์ฐานยาว ส่วนแม่พิมพ์เกศบัวตูมอีกแม่พิมพ์หนึ่งก็จะเรียกเป็นพิมพ์เกศบัวตูมแม่พิมพ์ฐานสั้น ในส่วนตัวผมที่ศึกษามาจากกลุ่มที่จัดแม่พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ทรงเจดีย์ ก็ขอจัดให้เป็นพิมพ์ทรงเจดีย์นะครับ
พระสมเด็จ วัดระฆังฯ พิมพ์ทรงเจดีย์แม่พิมพ์นี้จะพบน้อยมาก ไม่ค่อยได้พบเห็นกันนัก แม้แต่ภาพถ่ายก็เช่นกันสันนิษฐานว่าคงจะมีสร้างจำนวนไม่มากนักเช่นเดียวกับแม่พิมพ์ใหญ่ ซึ่งพบน้อยมาก เพราะแม่พิมพ์นี้เป็นแม่พิมพ์ที่สวยงามมาก มองเห็นพระกรรณ (หู) ชัดเจนมาก
ในส่วนของพระเกศ ที่ฐานพระเกศจะมีมุ่นมวยผมเหนือพระเศียร และต่อมาเป็นเส้นพระเกศตรงกลางมีขยัก เป็นรูปคล้ายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน คล้ายกับดอกบัวตูม (ซึ่งอาจจะเป็นจุดนี้ที่กลุ่มหนึ่งจึงจัดไปอยู่ในพิมพ์เกศบัวตูม)
แต่ปลายพระเกศจะยาวไปจรดเส้นซุ้มพอดี องค์พระล่ำสันอวบอิ่มสวยงาม หน้าตักแสดงรายละเอียดของขาทั้งสองข้างใต้หน้าตักระหว่างหน้าตักกับฐานชั้นบนจะมีเส้นแซม และระหว่างฐานชั้นบนสุดและฐานชั้นกลางก็จะมีเส้นแซมเห็นเป็นเส้นบางๆ ทั้งสองเส้น
พระพิมพ์ทรงเจดีย์แม่พิมพ์นี้จะหายาก พบน้อยมาก ธรรมชาติของร่องรอยการผลิตนั้นก็จะเห็นได้ว่าเป็นเช่นเดียวกับพระสมเด็จของวัด จะหายาก พบน้อยมาก ธรรมชาติของร่องรอยการผลิตนั้นก็จะเห็นได้ว่าเป็นเช่นเดียวกับพระสมเด็จของวัดระฆังฯ ทุกองค์ ทั้งด้านหลังของพระก็จะเป็นเอกลักษณ์ของวัดระฆังฯ ด้านหลังของพระสมเด็จ ไม่ว่าจะเป็นของวัดระฆังฯ หรือของวัดบางขุนพรหม จะมีเอกลักษณ์ซึ่งเป็นร่องรอยการผลิตปรากฏอยู่ และของทั้ง 2 วัด แต่ละวัดก็จะมีเอกลักษณ์ของตัวเอง
ทุกเส้นสายในองค์พระ เส้นซุ้ม กลมกลืน ไม่ขัดตา ธรรมชาติ กากดำ เม็ดแดง ก้อนขาว รอยยุบ รอยแยก รอยยับ และร่องแตกลายงาอ่อนๆ ที่เกิดจากการลอกรัก
รักสมเด็จวัดระฆัง ถ้าหนา จะเห็นเป็นสีดำ ถ้าบาง จะเห็นสีแดงแกมน้ำตาล ร้อยละ 95 สมเด็จวัดระฆัง ลงรักปิดทองพระอายุกว่า 150 ปี รักจะถูกลอก ขูด หรือ ล่อนออกเอง ด้วยเหตุผลนานาประการ เหลือพระที่ลงรักปิดทองอยู่ไม่กี่องค์
คุณสมบัติของรัก...ติดแน่นหนากับผิวพระ...ส่วนที่หลุดลอก จะเหลือ “ฝ้า” สีแดงแกมน้ำตาลซึมอยู่ในผิว หลายองค์เห็นออกนอกผิว แต่อีกหลายองค์ ก็จมอยู่ใต้ผิว เมื่อแช่น้ำ ก็จะแสดงปฏิกิริยาออกมา “แดง” ทั้งองค์
เนื้อรัก ทั้งปื้นหนา และชิ้นน้อย ที่ยังเหลือ ส่องกล้องดูก็จะเห็นว่า ติดอยู่กับ ซอกมุม หลุมบ่อ รอยยุบ รอยแยก และส่วนที่เป็น “ก้อนขาว” หรือเม็ดปูนขาว ซึ่งมักจะยุบตัวต่ำกว่าพื้นผนังพระ
ฝากข้อคิดและเทคนิคไว้ 1 ข้อ คือ .... เนื้อรักเก่า ดูดติดสนิทแนบเนื้อพระ ล้างไม่ออกง่ายๆ ถ้าล้างออกง่าย ก็มักเป็นรักใหม่ ฝีมือนักทำพระปลอม ...วางได้เลย
มีศรัทธา บุญมาวาสนามี พระสมเด็จวัดระฆังแท้ อาจมาโปรดถึงมือ ..... สาธุครับ
คาถาชินบัญชร สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี
ตั้งนะโม 3 จบ >>>
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
พระคาถาชินบัญชร ฉบับย่อ
ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริ ตัง มัง รัก ขะ ตุ สัพ พะ ทา (ภาวนา 10 จบ)
พระคาถาชินบัญชร ฉบับเต็ม
ก่อนสวดให้นึกถึง หลวงปู่โต พรหมรังสี แล้วตั้งจิตอธิษฐาน ว่า
ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง ธะนะกาโม ละเภธะนัง
อัตถิกาเย กายะ ญายะ เทวานัง ปิยะตัง สุตตะวา
อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ
มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ
เริ่มสวดบทพระคาถาชินบัญชร 15 บท
ชะยาสะนากะตา พุทธา เชตวา มารัง สะวาหะนัง
จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา.
ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา
สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเกเต มุนิสสะรา.
สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน
สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร.
หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะทักขิเณ
โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก.
ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะ ราหุโล
กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก.
เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร
นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว
กุมาระกัสสโป เถโร มะเหสี จิตตะ วาทะโก
โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง ปะติฏฐาสิคุณากะโร.
ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ อุปาลี นันทะ สีวะลี
เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเต ติละกา มะมะ.
เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา
เอเตสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา
ชะลันตา สีละเตเชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา.
ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง
ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง
ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง
อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา
ชินา นานาวะระสังยุตตา สัตตัปปาการะ ลังกะตา
วาตะปิตตาทะสัญชาตา พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา.
อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะ เตชะสา
วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร.
ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะฮี ตะเล
สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา.
อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข
ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว
ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ
สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย
สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ.
คาถาชินบัญชร ควรจะเริ่มสวดในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นวันครูและให้เตรียมดอกไม้ 3 สี หรือดอกบัว 9 ดอก หรือดอกมะลิ 1 กำ จุดธูป 3 5 ถึง 9 ดอก เทียน 2 เล่ม จากนั้นให้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยโดยการตั้งนะโม 3 จบ ต่อด้วยบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ จากนั้นตั้งจิตนึกถึงสมเด็จโต
หากสวดชินบัญชรได้ควรสวดหนึ่งจบ ก่อนที่จะนำพระสมเด็จติดตัวไป ให้ทำดังนี้ เมื่อยกสร้อยขึ้นจะคล้องคอ องค์พระอยู่ในอุ้มมือพนมมือแล้วท่องคาถาอาราธนาดังต่อไปนี้ " โอมมะศรี มะศรี พรมรังสี นามะเตโช มหาสมโณ มหาปัญโญมหาลาโภ มหายะโส สัพพะโสตถี ภะวันตุเม"