พ่อท่านท้วง สำนักสงฆ์คลองแคว จ.นครศรีธรรมราช คำสอนพ่อท่านท้วง ประวัติพ่อท่านท้วง ประสบการณ์พ่อท่านท้วง คุณุตตโร สำนักสงฆ์คลองแคว อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช
พ่อท่านท้วง สำนักสงฆ์คลองแคว จ.นครศรีธรรมราช พระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังจากลูกศิษย์และชาวบ้านซึ่งให้ความเคารพ พ่อท่านท้วงจากความศรัทธาในท้องถิ่นจนทำให้ท่านเป็นที่รู้จักของผู้นิยมสะสมพระเครื่องในปัจจุบันนี้ พระเกจิอาจารย์สายใต้ที่พระเครื่องของท่านกำลังนิยมมาก

พ่อท่านท้วง ละสังขารแล้ว-รวมสิริอายุ90ปี เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2558 เวลา 20.00น.
ประสบการณ์ปัจจุบัน
1.ยิงไม่เข้า ถ้าไม่ด่าแม่ 2. เข้าไม่ตาย 3. เมตตากับโจร 4. พ่อท่านอ่านใจผม 5. ลูกอมทำให้อาตมาเวียนหัว 6. ผู้ใหญ่บ้านสองคน 7. แม่มึงเป็นเบาหวาน 8. เสือมหาอำนาจ มหาลาภ 9. ยาเหนียดกำเนิดพระธาตุ 10. ถ่ายรูปไม่ติด 11. เมฆยังต้องบังแดดให้
คำสอนพ่อท่านท้วง
ห้ามด่าบุพการี อย่าผิดลูกเมียผู้อื่น ทำความดี ละเว้นความชั่ว ขยันทำมาหากิน อย่าท้อ แล้วพ่อจะไปช่วย มั่นสะสมบุญ อย่าคิดชั่วทำชั่ว
ประวัติพ่อท่านท้วง สำนักสงฆ์คลองแคว จ.นครศรีธรรมราช พระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังจากลูกศิษย์และชาวบ้านซึ่งให้ความเคารพ พ่อท่านท้วงจากความศรัทธาในท้องถิ่นจนทำให้ท่านเป็นที่รู้จักของผู้นิยมสะสมพระเครื่องในปัจจุบันนี้ พระเกจิอาจารย์สายใต้ที่พระเครื่องของท่านกำลังนิยมมาก
พ่อท่านท้วง ละสังขารแล้ว-รวมสิริอายุ90ปี เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2558 เวลา 20.00น.

มีครั้งหนึ่งมีโยมไปเยี่ยมพ่อท่านเนียม แห่งวัดบางไทร แล้วถามถึง หลวงพ่อท้วงว่ามีดียังใงบ้าง พ่อท่านเนียมก็กล่าวว่า "เรานับถือท่านท้วง ท่านท้วงก็นับถือเรา" ต่อมาเมิ่อพ่อท่านท้วงออกจากวัด วัดป่าระกำเหนือ เพื่อประกอบสัมมาอาชีพ โดยท่านได้ประกอบอาชีพแจวเรือจ้างข้ามฝั่งระหว่างแม่น้ำปากพนัง ระหว่างนั้นท่านได้พบปะกับท่านโอภาษีแห่งอาศรมบางมดบ่อยครั้ง เหตุเพราะบ้านของท่านโอภาษีอยู่ที่ปากพนัง แต่ท่านก็ไม่ใด้เล่ารายละเอียดในช่วงเวลานั้นมากนัก จนต่อมาท่านโดนคดีความโดยท่านไม่ใด้กระทำผิด ท่านจึงต้องหลบหนีเจ้าหน้าที่ทางการไปพักหนึ่ง ทั้งๆที่ท่านเตรียมพร้อมที่จะมีคณะหนังตะลุงของท่านเอง จนเมื่อท่านหลบหนี ทุกคนจึงให้ฉายาท่านว่า (ใอ้เสือห้อง) จนเป้นที่เกรงกลัวและต้องการตัวของทางการ จนท่านต้องหลบหนีไปพักใหญ่ จนเมื่อปีพ.ศ.2500 พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธ์ใด้มีโครงการริเริ่มก่อสร้างเจดีย์ใหญ่ที่วัดธาตุน้อย ด้วยจิตใจที่ท่านต้องการสร้างบุญกุศลเพื่ออุทิศบิดา มารดา จึงเดินทางไปช่วยพ่อท่านคล้ายที่วัดธาตุน้อยเพื่อก่อสร้างเจดีย์ เมื่อไปถึงท่านก็ก้มลงกราบที่ฝ่าเท้าพ่อท่านคล้าย แต่พ่อท่านคล้ายใด้เอามือรองรับเอาใว้ไม่ให้ถึงเท้าท่านพร้อมกลับกล่าวประกาศต่อหน้าสาธารณะชนว่า "ท่านผู้นี้มีวาสนาวาจาสิทธิ์ใด้เดินทางมาถึงแล้ว" พ่อท่านท้วง จึงถามกลับไปว่าเป็นท่านหรือ พ่อท่านคล้ายตอบกลับมาว่าเป็นท่าน จึงทำให้ชื่อเสียงท่านโด่งดังแต่นั้นมา อีกทั้งท่านใด้ไปหาท่านพระครูสุนทร วัดดินดอนเพื่อร่ำเรียนวิชามาด้วยซึ่งหลายท่านอาจยังไม่ทราบ มีหลักฐานที่รอยสักที่ข้อมือของท่านซึ่งเป็นคาถาที่ท่านพระครูสุนทรสั่งสอนท่านมา ถ้าไม่มีใครถามท่านก็คงไม่บอกเพราะ พ่อท่านท้วง ท่านค่อยข้างเก็บตัว

หลังจากสร้างเจดีย์ที่วัดธาตุน้อยเสร็จเรียบร้อยแล้ว พ่อท่านคล้ายจึงแนะนำว่าให้ท่านอุปสมบทจึงจะดีและสามารถครองสมณะเพศไปได้ตลอดอายุขัยและจะเจริญรุ่งเรื่องในพระพุทธศาสนา สามารถช่วยเหลือบุคคลทุกข์ยากทั่วไป ท่านจึงตัดสินใจเข้าอุปสมบท ที่วัดนาควารี (หูล่อง) ท่านอุปัชาย์ของท่าน คือท่านเจ้าคุณศรีธรรมภาณมุนี (แคล้ว) ซึ่งมีความเก่งกล้าไม่น้อย และตำราคาถาอาคมต่างๆของพ่อท่านแล้วก็ตกอยู่กับพ่อท่านท้วงหลายเล่ม บางเล่มก็ลอยมาตกตรงหน้าท่านโดยอัศจรรย์รวมถึงพระยันต์นโม ที่บรรจุใว้ด้านหลัง เหรียญพ่อท่านท้วงรุ่นแรก และยันต์ที่ลงปลัดขิกด้วยเช่นกัน และอีกหลายพระยันต์ที่ยังไม่ใด้นำออกมาใช้ ล้วนแล้วแต่เป็นอัขระยันต์โบราณที่สืบทอดมาเฉพาะสายเท่านั้น และเรื่องทายใจคนเป็นเรื่องธรรมดาที่คนเคยสัมผัสรับรู้ใด้ทุกคน และวัตรปฎิบัติของท่านที่ทุกคนรู้กันดี คือ ท่านไม่ออกนอกวัด ยกเว้นบิณฑบาตอย่างเดียวและไม่รับกิจนิมนต์ทุกอย่างนอกวัดและท่านก็ยังถือปฎิบัติมาจนถึงวันนี้
เครดิตอ้างอิงโดย : สำนักสงฆ์คลองแคว โดยคุณรงค์ คลองแคว