หลวงพ่อเพชร วัดท่าถนน จ.อุตรดิตถ์ หลวงพ่อเพ็ชร (วัดท่าถนน) หลวงพ่อเพชร ศิลปะเชียงแสนสิงห์หนึ่ง พระเครื่องหลวงพ่อเพชร วัดท่าถนน

หลวงพ่อเพ็ชร (วัดท่าถนน) จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นพระพุทธรูปเนื้อโลหะสำริด ปางมารวิชัย (ขัดสมาธิเพชร) ศิลปะเชียงแสนสิงห์หนึ่ง หน้าตักกว้าง 32 นิ้ว มีพุทธลักษณะงดงามมาก ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วิหารวัดท่าถนน ชาวอุตรดิตถ์นับถือว่า เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองอุตรดิตถ์ มีงานนมัสการประจำปีในวันกลางเดือนสี่ของทุกปี
หลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สมัยเชียงแสนรุ่นแรก ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารของวัดท่าถนน ตลาดบางโพ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ วัดท่าถนนเดิมชื่อวัดวังเตาหม้อ เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ที่ ถนนสำราญรื่น ตำบลท่าอิฐ วัดท่าถนน ชื่อที่ชาวบ้านเรียก วัดหลวงพ่อเพ็ชร ชื่อเดิม วัดวังเตาหม้อ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ได้สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. ๒๓๐๒ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาวันที่ ๘ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๘ ประชาชนร่วมใจกันสร้างวัดนี้ ได้รับพระบรมราชานุญาตให้สร้างวัดตามพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ. ๑๒๑ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๐ มีพระบรมราชโองการพระราชทานวิสุงคามสีมา ปี พ.ศ. ๒๔๙๘ ที่ดินเฉพาะบริเวณที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ ๑๔ ไร่ ๒ งาน ๔๘๔ ตารางวา โดยมีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นโฉนด เลขที่ ๑๗๑๑ พื้นที่ตั้งของวัดมีลักษณะตั้งอยู่กลางใจเมือง ติดแม่น้ำน่านและการคมนาคมสะดวก
หลวงพ่อเพ็ชร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอุตรดิตถ์ เป็นพระพุทธรูปสมัย เชียงแสนสิงห์หนึ่งเกตุบัวตูม สังฆาฎิสั้นเหนือราวนมด้านซ้ายหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัยนั่งขัดสมาธิเพชร หน้าตักกว้าง ๓๒ นิ้ว สูง ๔๑ นิ้ว หลวงพ่อเพ็ชร เจ้าอาวาส ได้อันเชิญมาจากวัดไผ่ล้อม ตำบลไผ่ล้อม อำเภอลับแล มาประดิษฐานไว้ที่อุโบสถหลังเก่า (วัดวังเตาหม้อเดิม) ด้วยพุทธลักษณะนั่งขัดสมาธิเพชร จึงเป็นที่รู้จักและเรียกขานกันทั่วไปว่า “หลวงพ่อเพ็ชร” พระพุทธรูปองค์นี้ในช่วงสมัย ร.ศ. ๑๑๙ รัชกาลที่ ๕ ได้โปรดอันเชิญไปประดิษฐานที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพฯ เป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๕ จนถึง ร.ศ. ๑๒๙ หลวงนฤนาถเสนี (พัน) (จุภรรยา) หรือพระนฤบาลบดี (ต้นสกุลศรีพัน) อันเชิญมาประดิษฐานไว้วัดท่าถนน (หรือวัดวังเตาหม้อเดิม) โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานคืนวิหารที่ประดิษฐานหลวงพ่อเพ็ชรปัจจุบัน สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๓ โดยพระสุธรรมเมธี (ทองสุก) อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าถนน และอดีตเจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ สร้างถวายหลวงพ่อเพชร

หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อเสียงหลวงพ่อเพชร เสียงร่ำลือในเรื่องต่างๆ...โดยเฉพาะแรงศรัทธาที่ทำให้สมหวังตามที่ตั้งใจ เมื่อมีการมาขอให้หลวงพ่อช่วยเหลือ
ประวัติความเป็นมา “วัดท่าถนน” เดิมทีมีชื่อว่า “วัดวังเตาหม้อ” ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำน่าน ถนนเกษมราษฎร์ ตำบลท่าอิฐ เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปสัมฤทธิ์เก่าแก่ นั่งขัดสมาธิเพชร กล่าวกันว่าในปี 2436 ขณะหลวงพ่อด้วง เจ้าอาวาสวัดหมอนไม้ เดินทางกลับมาจากรับนิมนต์ที่วัดสว่างอารมณ์ ตำบลไผ่ล้อม อำเภอลับแล...เมื่อผ่านวัดสะแกที่เป็นวัดร้างได้พบเนินดินเป็นจอมปลวกขนาดใหญ่ มีเกศพระพุทธรูปโผล่ขึ้นมา เมื่อขุดดูพบว่าเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ที่มีลักษณะงดงามมาก
หลวงพ่อด้วงเห็นว่าวัดหมอนไม้ไม่มีพระอุโบสถที่จะประดิษฐานพระพุทธรูปได้อย่างเหมาะสม ประกอบกับมีประชาชนจำนวนมากทราบข่าวก็พากันมากราบไหว้สักการบูชาพระพุทธรูปองค์นี้เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญ...เมื่อเสียงลือเสียงเล่าอ้างดังไปทั่วก็อาจเป็นที่หมายปองของโจรผู้ร้ายจะมาฉกชิงไปเสีย จึงตัดสินใจนำมาประดิษฐานไว้ที่...วัดท่าถนน
ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2443 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ทรงสร้างวัดเบญจมบพิตร ได้มีการรวบรวมพระพุทธรูปที่เก่าแก่และสวยงาม ที่อยู่ตามหัวเมืองต่าง ๆ มาประดิษฐานไว้ที่วัดเหล่านี้ พระพุทธรูปหลวงพ่อเพชร มีพุทธลักษณะงาม ก็ได้รับเลือกสรรให้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดเบญจมบพิตร พร้อมกับพระพุทธรูปองค์อื่น ๆ จากทั่วราชอาณาจักร
การที่ต้องนำหลวงพ่อเพชรไปจากวัดลังเต้าหม้อทำให้เจ้าอาวาสเสียใจมาก จึงได้ออกจากวัดธุดงค์ไปในที่ต่าง ๆ สุดท้ายได้มรณภาพบนภูเขาในป่า บ้านนาตารอด ตำบลบ้านด่าน อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2453 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ได้โปรดเกล้า ฯ ให้อัญเชิญพระพุทธรูปหลวงพ่อเพชร กลับคืนไปประดิษฐานไว้ที่วัดวังเตาหม้อตามคำขอของชาวเมืองอุตรดิตถ์ เมื่อปี พ.ศ. 2473

พระครูธรรมกิจจาภิบาล ร่วมกับประชาชนชาวเมืองอุตรดิตถ์ได้ช่วยกันสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ และอัญเชิญพระพุทธรูปหลวงพ่อเพชรมาประดิษฐานไว้ในพระวิหาร เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาสักการะบูชาได้สะดวก
พระพุทธรูปหลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสนรุ่นแรก ที่เรียกกันว่าพระพุทธรูปเชียงแสนสิงห์หนึ่ง หล่อด้วยทองสำริด ปางมารวิชัย ชายสังฆาฎิสั้น ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร หน้าตักกว้าง 32 นิ้ว สูง 41 นิ้ว มีพุทธลักษณะงามมาก
ชาวอุตรดิตถ์ถือเป็นพระพุทธรูปสำคัญประจำเมือง มีงานนมัสการประจำปีในวันกลางเดือนสี่ของทุกปี
