ดอกทองเสน่หามหาละลวย ปลุกเสกโดยครูบาเดช อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เป็นว่านโบราณที่หายาก พบในป่าเขาลำเนาไพรทางภาคตะวันตกและภาคเหนือ  แถบจังหวัดกาญจนบุรี  ตาก  ลำปาง  เป็นต้น ลำต้นใต้ดินเป็น เหง้ากลม  แตกแง่งเป็นไหลเล็กยาว  ๕ – ๑๐  นิ้ว  เนื้อในหัวถ้าเป็นตัวผู้จะมีสีเหลือง  ส่วนตัวเมียเนื้อสีขาว  มีกลิ่นคาวจัด  ใบเป็นรูปหอกสีเขียวมีขนาดเล็ก  เส้นกลางใบมีสีแดง  ลำต้นสูงประมาณ  ๑  ฟุต ออกดอกในหน้าฝน  แต่ไม่มีก้านดอกจะอยู่ติดกับพื้นดิน  มีสีขาวอมเหลือง

          ตามตำราโบราณระบุว่าว่านดอกทองมีอำนาจทางเพศรุนแรง  โดยมากในผู้หญิงจะเกิดคุณทางกามรมณ์ที่รุนแรงมาก  ถ้าเอาดอก  หัว  ใบ  หรือลำต้น  นำไปใส่ในโอ่งน้ำ  หรือบ่อน้ำ  หากใครได้กินเข้าไปก็จะมีอารมณ์ความรู้สึกทางเพศที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น  โดยเฉพาะดอกเพียงแค่ได้กลิ่นสูดดม  ทั้งหญิงและชายจะพากันมัวเมาในโลกีย์รส  คนสมัยก่อนจึงนิยมเก็บดอกของว่านดอกทองไว้หุงกับน้ำมันจันทน์  หรือบดรวมกับสีผึ้ง  โดยวิธีใช้คือ  ใช้น้ำมันว่านทาที่ตัว  หรือใช้สีผึ้งทาปาก  เมื่อถึงคราวจะต้องไปพบปะผู้หลักผู้ใหญ่  ผู้คนต่างๆ  หรือหนุ่มสาว  

          หญิงใช้จักเป็นเสน่ห์ติดตัว  ใครเห็นใครรักใครหลง  ว่านดอกทองหรือว่านราคะ  เป็นเมตตามหาเสน่ห์  มหานิยม  มหาละลวย  ลุ่มหลงงวยงง  ทำให้คนรักคนหลง ไปไหนมีแต่คนเข้ามาทักทายพูดคุยด้วยความเสน่หา  นับว่าเป็นว่านที่มีคุณทางด้านเมตามหาเสน่ห์  มหานิยมลุ่มหลงงวยงงที่รุนแรงเป็นอย่างมาก  นอกจากนี้แล้วตามความเชื่อแต่โบราณ คุณทางด้านเมตตามหานิยม  ทำให้มีโชคมีลาภไม่ขาดสาย  ลูกค้าเข้ามาอุดหนุนจุนเจืออย่างเนืองแน่น  ค้าขายตามแห่งหนตำบลใดมีแต่กำไรงอกเงย  มีไม่พอขาย  มีขายแทบไม่ทัน  ใช้แล้วมีแต่คำว่า  รวย  รวย  รวย!